บทความนี้อาจจะมีฉาก อีโรติก บ้างนะฮะ โปรดใช้จินตนาการในการรับชม ถ้าไม่ชอบก็ปิดหน้านี้ซะ ก๊อปได้นะแต่ให้เครดิตด้วย
Title: Sweet Birthday [HBD Xiah Junsu ^ ^]
Paring: Yoochun x Junsu
Author: ~#DN_LoveR#~
Author Note: และแล้วเราก็ปั่นทันจนได้~ > < (แอบปาดเหงื่อ พิมพ์กันมือหงิกเลย) วันนี้วันดี โลมาน้อยอายุ 22 แล้ว และเป็นวันประกาศผลสอบมหิดลฯด้วย TwT” ผลปรากฏว่า...เบลล์ไม่ติด!! เย้~~!!! (เป็นไปตามที่คิดไว้เป๊ะเลย เหอๆ) เบลล์ไม่ติดนี้โคตรดีใจ จะได้ทุ่มเวลาในการอ่านหนังสือในการสอบต่อโรงเรียนเดิม + ปั่นฟิคได้เต็มที่ กริ๊ว~ (โรงเรียนเบลล์ใครเป็นศิษย์เก่า ยื่นเกรดเรียนต่อม.ปลายได้ค่ะ เลยไม่ต้องเครียด เอิ๊กๆ) เอาล่ะ เข้าเรื่องกันนิดนึง ฟิคนี้มันออกจะไร้สาระไปสักนิด แต่ก็คงจะไม่เป็นไรเนอะ ^ ^” ส่วนตอนอวยพรนุ้งพร้าวขอไว้ตอนจบละกันเนอะ ไม่พูดมากแล้ว เชิญอ่านได้เลยค่า~
ปล. ถ้าเนื้อเรื่องอ่านแล้วงง ๆ เบลล์ขอโทษด้วยนะคะ พอดีเบลล์ด้นสดวันนี้เลยค่ะ TwT (กว่าจะเจียดเวลาแต่งได้ เหนื่อยโฮก~ งานยังสุมอยู่เป็นกอง แง้~~ T[]T”)
+:+:+:+:+:+:+ Sweet Birthday +:+:+:+:+:+:+
...วันนี้...เป็นวันเกิดผมฮะ...
...เฮ้อ~...นี้เราแก่ขึ้นอีกปีแล้วหรอเนี่ย...
ทันทีที่จุนซูได้หลุดออกมาจากห้วงนิทราอันแสนหวาน ร่างเล็กก็พ่นลมหายใจพรู่พร้อมกับบ่นกับตัวเองในใจ หลังจากที่เขาได้ใช้ชีวิตในแต่ละวันที่ผ่านมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งมาถึงวันพิเศษของเขา ที่จริงมันก็ดีใจละนะ ที่จะได้รับคำอวยพรหรือไม่ก็ของขวัญจากคนอื่น ๆ แต่....
...อายุมันเพิ่มขึ้นนี่สิ...
...เฮ้อ~...นี้เราจะแก่แล้วรึยังเนี่ย~...
แขนเรียวถูกใช้เป็นที่ยันให้จุนซูลุกขึ้นมานั่งจุ้มปุ้กอยู่บนเตียงนุ่มสีขาวด้วยใบหน้าที่ยับย่น บวกกับกลุ่มผมนิ่มที่ยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง ร่างเล็กยืดแขนจนสุดความยาวพร้อมกับบิดตัวไปมาให้หายเมื่อย เมื่อความเมื่อยที่มีนั้นมันหายไปแล้ว จุนซูก็ค่อย ๆ พาตัวเองย้ายไปยังห้องอาบน้ำเพื่อจะทำความสะอาดร่างกายให้สะอาด และเพื่อไล่ความง่วงนอนที่ยังหลงเหลือให้หายไปให้หมด
สายน้ำเส้นเล็ก ๆ หลายสายไหลออกมาจากฝักบัวขนาดใหญ่ไปกระทบกับผิวขาวเนียนละเอียดของร่างเล็ก มือเรียวถูใบหน้าที่เปียกปอนไปด้วยน้ำเพื่อให้ความสดชื่นกับตัวเอง ก่อนที่จะเลื่อนไปถูตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเพื่อทำความสะอาด เส้นผมนิ่มที่เปียกชื้นลู่ลงไปตามใบรูปหน้าน่ารักทำให้ร่างเล็กนั้นดูเซ็กซี่ขึ้นไปอีกเท่าตัว ถ้าหากว่ามีใครได้มาเห็นจุนซูในตอนนี้อาจจะได้เสียเลือดไปเยอะ
เป็นเวลาไม่นานนักที่ร่างเล็กใช้ไปกับการอาบน้ำในยามเช้า ประตูห้องน้ำบานเล็กถูกเปิดออก เผยให้เห็นร่างเล็กที่ใส่เพียงกางเกงยีนส์สีดำเพียงตัวเดียว และเห็นขอบบ็อกเซอร์ที่โผล่พ้นออกมานอกกางเกงเล็กน้อย ผ้าเช็ดตัวสีขาวผืนเล็กถูกพาดไว้ที่บริเวณต้นคอ กลุ่มผมที่ยังไม่ได้ถูกเช็ดให้แห้งดีนักมีหยดน้ำหยดเล็กเกาะอยู่ตามปลายเส้นผม ร่างกายท่อนบนที่ยังเห็นถึงความเปียกชื้นนิด ๆ นั่นมันทำให้จุนซูดูน่าหลงใหลอย่างไม่มีที่ติ
แต่เพราะว่าเขานั้นอยู่ในบ้านพักของวง มันก็เลยไม่มีเหตุการณ์คนเข้ามาวิ่งรุมทึ้งเขาอย่างแน่นอน ร่างเล็กเดินต้วมเตี้ยมไปยังส่วนที่ใช้นั่งพักผ่อนภายในบ้าน โซฟายาวตัวนุ่มตอนนี้ถูกน้องเล็กของวงใช้เป็นที่นั่งในการอ่านหนังสือส่วนหนึ่ง จุนซูมองแผ่นหลังของน้องเล็กครู่หนึ่งด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งบนโซฟาตัวนั้นบ้าง พร้อมกับเอื้อมมือไปหยิบรีโมทบนโต๊ะเล็ก ๆ ตรงหน้าเพื่อเปิดโทรทัศน์
ชางมินหันไปมองผู้มาใหม่ นิ้วเรียวยกขึ้นดันแว่นสายตาให้ขึ้นไปเล็กน้อย จุนซูที่ไม่ได้ใส่เสื้อและหัวก็ยังคงไม่แห้งดีนัก กำลังกดเปลี่ยนช่องนู่นนี่เพื่อหารายการที่ถูกใจ เมื่อเจอแล้วริมฝีปากบางก็ยกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะวางรีโมทลงที่ตำแหน่งเดิม ชางมินยังคงมองไปที่รุ่นพี่ร่างเล็กที่เริ่มเอนหลังพิงไปกับพนักและเริ่มใช้ผ้าเช็ดตัวมาเช็ดผมของตัวเองไปมา
“แก่ขึ้นอีกปีแล้วนะพี่”
คำพูดสั้น ๆ แต่มันช่างแทงใจดำของคิมจุนซูยิ่งนัก มือเรียวที่กำลังเช็ดผมของตัวเองอยู่ชะงัก ร่างเล็กหันไปมองใบหน้าของชางมินที่ตอนนี้กำลังยกยิ้มที่ดูบริสุทธิ์แต่ภายในนั้นกลับเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ จุนซูจิ๊ปากอย่างไม่พอใจกับคำพูดที่น้องเล็กของวงพูดอวยพรฉลองวันเกิดของเขา
“นี่เหรอคำอวยพรสำหรับพี่ชาย?”
“แน่นอน นี้ผมอวยพรจากใจจริงเลยนะเนี่ย”
“=A=”
จุนซูแยกเขี้ยวใส่ชางมินอย่างขัดใจ ท่าทางที่เจ้าตัวคิดว่ามันน่าจะดูน่ากลัว แต่ในสายตามันกลับดูน่ารักเสียมากกว่า ชางมินหัวเราะออกมาอย่างพอใจที่ได้แกล้งพี่ชายในวันพิเศษแบบนี้ จุนซูที่พอจะรู้ว่าตัวเองนั้นคงจะสู้น้องชายตัวแสบนี้ไม่ได้แน่นอนเลยได้แต่ทำปากยื่นและสะบัดหน้าหนีไปอย่างงอน ๆ
“ชิส์ ไอ้น้องบ้า ไม่นั่งด้วยแล้ว ไปหาอะไรกินดีกว่า”
ว่าแล้วโลมาก็สะบัดครีบหนียีราฟแสนกวนไปในทันที จุนซูเดินกระแทกเท้าปึงปังไปอย่างไม่สบอารมณ์ ชางมินที่เห็นภาพแบบนั้นก็อมยิ้มขำ ๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเล็กน้อยกับความเป็นเด็กน้อยของพี่ชายตัวเอง
“สุขสันต์วันเกิดนะ พี่จุนซู~”
ชางมินพูดอวยพรไล่หลังอีกฝ่าย ก่อนที่จะกลับมาก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือเล่มหนาเช่นเดิม จุนซูที่เดินกระแทกเท้าหยุดกึก ใบหน้ามนหันกลับมามองน้องเล็กที่ทำเป็นอ่านหนังสือเหมือนเดิม ราวกับว่าเมื่อกี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จุนซูทำเสียงจิ๊จ๊ะเหมือนไม่พอใจ แต่ริมฝีปากบางนั้นมันกลับยกยิ้มขึ้นอย่างห้ามไว้ไม่อยู่
...น้องชายใครเนี่ย...น่ารักชะมัด~...
"ขอบใจนะ”
เสียงใสตอบกลับไป ก่อนจะเดินไปที่ห้องครัวอย่างมีความสุข ชางมินละสายตาออกมาจากตัวหนังสือไปมองแผ่นหลังของจุนซูที่ค่อย ๆ ไกลออกไป ก่อนจะยกยิ้มขึ้นพร้อมกับยักไหล่เหมือนไม่ใส่ใจอะไร แต่สุดท้ายมันก็ทำให้เขาต้องหลุดขำออกมานิด ๆ อยู่ดีนั่นล่ะ
...ถึงอายุจะเพิ่มขึ้น...
...แต่ทำไมนิสัยถึงยังเด็กอยู่เลยละเนี่ย...พี่จุนซู...
จุนซูเดินเข้ามายังห้องครัว ที่ตอนนี้ตรงโต๊ะกินข้าวมีคนกำลังนั่งเปิดหนังสือพิมพ์อ่าน พร้อมกับมีแก้วกาแฟแก้วเล็กวางไว้บนโต๊ะตรงหน้า ดูไปก็คล้ายกับท่าทางของคุณพ่อที่ต้องเตรียมตัวไปทำงานตอนเช้ายังไงยังงั้น ส่วนด้านหลังที่เป็นบริเวณครัวเพื่อใช้ทำกับข้าวก็มีกลิ่นหอม ๆ ของอาหารในยามเช้าลอยมาแตะจมูกเล็กราวกับเชิญชวน และดวงตากลมก็เห็นแผ่นหลังของใครอีกคนหนึ่งกำลังยืนเตรียมกับข้าวในยามเช้าอย่างขะมักเขม้น
...ถึงไม่ต้องเห็นหน้า...เขาก็เดาได้ล่ะว่าสองคนนี้คือใคร...
“อ้าว! จุนซู~ ตื่นแล้วหรอ”
เสียงหวานทักร่างเล็กอย่างสดใส จุนซูหันไปมองตามทางที่เสียงนั้นดังมา ตอนนี้เจ้าของเสียงกำลังเดินมาหาเขาใกล้ ๆ แต่ไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองรึเปล่า เขารู้สึกว่าดวงตากลมสวยของแจจุงนั้นมันกลับแฝงไปด้วยความรู้สึกอะไรสักอย่างที่เขารู้สึกว่ามันจะเป็นลางไม่ดียังไงก็ไม่รู้
“อ่า...อรุณสวัสดิ์ พี่แจจุง”
“จุนซู....”
“อะไร?”
“นาย...นาย....”
“...= =?”
แจจุงเริ่มจะเดินประชิดขึ้น ใบหน้าหวานจ้องมองใบหน้าของผู้เป็นน้องด้วยความรู้สึกที่เปี่ยมล้น จุนซูจ้องมองใบหน้าของรุ่นพี่กลับเช่นกัน แต่เป็นสายตาที่แฝงไว้ด้วยความงุนงงปนความกลัวเล็ก ๆ วันนี้แจจุงเป็นอะไรรึเปล่าเนี่ย?
“เอ่อ...พี่แจจุง...มีอะไ...”
“สุขสันต์วันเกิดนะจุนซู~! อ๊า~ ทำไมวันนี้นายถึงได้น่ารักแบบนี้เนี่ย~~♥”
ร่างบางโผเข้ากอดร่างเล็กซะจนจุนซูแทบจะตั้งหลักไม่ทัน แจจุงกอดอีกฝ่ายพร้อมกับโยกตัวซ้ายขวาไปมาด้วยความหมั่นเขี้ยว โดยที่ไม่ได้ใส่ใจว่าเสื้อตัวเองนั้นจะเปียกเพราะหยาดน้ำบางส่วนที่ยังคงเกาะอยู่บนร่างเล็ก แจจุงส่งเสียงชมเจี๊ยวจ๊าวไปมาราวกับเด็กน้อยที่เจอของถูกใจ แถมยังโยกตัวไปมาไม่หยุดอีกต่างหาก ทำเอาจุนซูแทบจะเห็นดาวลอยไปมาอยู่บนหัวได้อยู่แล้ว
ยุนโฮเลื่อนหนังสือพิมพ์ลงให้ตัวเองสามารถเห็นภาพตรงหน้าได้ ตอนนี้แจจุงกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยง(?)จุนซูไปมาอย่างมีความสุข ซึ่งดูแล้วจุนซูก็น่าจะมีความสุขเหมือนกับแจจุงเช่นกัน (?) ภาพตรงหน้ามันทำให้ริมฝีปากหนาของลีดเดอร์ประจำวงต้องยกยิ้มขึ้นอย่างมีความสุข
...สาว ๆ (?) กอดกันนี้น่ารักดีแหะ~...
...รู้สึกโลกมันดูสดใสขึ้นเป็นกองเลย ^ ^...
เป็นเวลานานพอสมควรที่แจจุงนั้นกอดจุนซูจนพอใจ จุนซูยิ้มแหยให้พี่ที่อาวุโสสุดของวงที่ปนด้วยความดีใจเล็ก ๆ ที่แจจุงจำวันเกิดของเขาได้ ร่างบางนั้นเดินกลับไปเตรียมกับข้าวในยามเช้าให้เสร็จเรียบร้อยต่อ ส่วนจุนซูก็เดินมาที่โต๊ะกินข้าวเพื่อที่จะนั่งรออาหารแสนอร่อยจากฝีมือแจจุง แต่ยังไม่ทันที่จะได้หย่อนตัวลงนั่ง เสียงทุ้มต่ำก็เรียกดักเขาไว้ซะก่อน
“จุนซู มานั่งนี่”
มือหยาบตบลงบนเก้าอี้อีกตัวที่อยู่ใกล้กันกับตัวเอง จุนซูที่เห็นแบบนั้นก็เดินไปนั่งตรงเก้าอี้ตัวนั้นตามคำสั่งอย่างว่าง่าย ใบหน้าน่ารักหันไปมองอีกฝ่ายเป็นเชิงสงสัย แต่ก็ต้องกลายเป็นหลับตาแน่นเมื่อจู่ ๆ อีกฝ่ายก็หยิบผ้าเช็ดตัวผืนเล็กของเขาขึ้นมาขยี้กลุ่มผมนิ่มของเขาไปมา
“งื้อออ~”
“อาบน้ำเสร็จก็เช็ดผมให้แห้งสิ เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก วันนี้วันพิเศษ รักษาตัวให้มันดี ๆ หน่อยสิ”
ยุนโฮพูดด้วยน้ำเสียงที่ติดจะดุอยู่เล็กน้อย มือหยาบยังคงจัดการเช็ดกลุ่มผมนิ่มที่เปียกชื้นให้แห้ง จุนซูทำเพียงก้มหัวลงให้รุ่นพี่นั้นเช็ดผมตัวเองไปมาตามใจ แต่ริมฝีปากบางนั้นก็ยกยิ้มขึ้นอย่างมีความสุข เพราะคำพูดที่แฝงไปด้วยความอ่อนโยนกับการกระทำที่ยุนโฮมอบมาให้เขานั้นมันทำให้เขารู้สึกอบอุ่นเป็นอย่างมาก
...แหะ ๆ...มีพี่ชายเหมือนมีพ่อเลยแหะเรา...
...ทำเป็นดุ...แต่ยังไงพี่ยุนโฮก็ยังใจดีอยู่เหมือนเดิมนั่นล่ะ...
เวลาผ่านไปสักครู่หนึ่ง ยุนโฮก็หยุดมือลง จุนซูดึงผ้าเช็ดตัวชื้นผืนเล็กมาพาดไว้ที่ต้นคอเหมือนเดิม พลางสะบัดหัวซ้ายขวาไปมาเพื่อให้หยดน้ำที่ยังคงมีอยู่เล็กน้อยออกไปบางส่วน ใบหน้ามนเงยขึ้นมาสบตากับรุ่นพี่ก่อนจะยกยิ้มกว้างให้เป็นการขอบคุณ
“ขอบคุณฮะ”
ยุนโฮยกยิ้มตอบกลับไปให้เช่นกัน พลางเลื่อนมือไปยีเส้นผมละเอียดของรุ่นน้องไปมาอย่างหมั่นเขี้ยว จุนซูส่งเสียงโวยวายออกมาทันที แต่มันกลับทำให้ยุนโฮนั้นหัวเราะอย่างชอบใจ ทั้งสองหยอกล้อกันอยู่ครู่หนึ่ง จุนซูก็ผละตัวออกมาจากที่ตรงนั้น กลับมานั่งยังโซฟาตัวเดิมโดยที่มีน้องเล็กของวงที่ยังคงนั่งอ่านหนังสืออยู่เหมือนเคย
ที่จริงจุนซูก็อยากจะหันไปชวนชางมินคุยเรื่องนู่นเรื่องนี่ แต่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนั่นกำลังตั้งใจอ่านหนังสือจึงไม่ได้ชวนคุยเพราะกลัวจะเป็นการขัดสมาธิอีกฝ่ายซะเปล่า ๆ
พอมีโอกาสได้นั่งพักผ่อนอย่างสบายใจในวันพิเศษแบบนี้ ไม่รู้ว่าทำไมเขารู้สึกว่าใจของเขากำลังโหยหาถึงใครบางคน ใบหน้ามนหันไปมองประตูห้องนอนที่อยู่ใกล้กันกับห้องนอนของเขา ไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้เขาอยากจะให้เจ้าของห้องนอนห้องนั้นเดินมาหาเขานักก็ไม่รู้ ทั้ง ๆ ที่ปกตินั้นเขามักจะกัดกันกับอีกฝ่ายอยู่เป็นประจำแท้ ๆ
...ทำไมฉันถึงต้องอยากเจอหน้าหมอนั่นด้วยเนี่ย?...
“พี่ยูชอนยังไม่ตื่นหรอกฮะ พี่จุนซู”
ร่างเล็กสะดุ้งสุดตัวทันทีที่ได้ยินเสียงของชางมินดังมา ใบหน้ามนหันขวับไปมองน้องเล็กด้วยใบหน้าที่ดูจะตกใจเป็นอย่างมาก ชางมินทำเพียงแค่ส่งยิ้มใสซื่อตามแบบฉบับปริ๊นซ์ชิม แต่รอยยิ้มนั้นมันทำให้จุนซูแทบจะทำตัวไม่ถูกกันเลยทีเดียว
“อะ...อะไรล่ะ แล้วนายจะบอกฉันทำไม?”
ชางมินยังคงไม่ตอบอะไรอีกเช่นเคย ร่างโปร่งลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูงของตัวเอง และก้าวเดินพาตัวเองผ่านหน้าร่างเล็กไปอย่างหน้าตาเฉย จุนซูมองร่างของน้องเล็กไปอย่างไม่คลาดสายตา ตอนนี้ชางมินยืนอยู่ไม่ห่างจากเขาสักเท่าไรนัก แต่กลับมียุนโฮและแจจุงที่ใส่เสื้อโค้ทเหมือนกับเตรียมตัวจะออกไปข้างนอกยืนอยู่ด้วยนี่สิ มันทำให้เขาเริ่มงงกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นซะแล้ว และทันทีที่เสียงหวานลอยแว่วมากระทบหูเล็ก มันทำให้จุนซูต้องหลุดโพลงคำอุทานออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“จุนซู วันนี้ฉัน ยุนโฮ แล้วก็ชางมินถูกผู้จัดการเรียกกระทันหันอ่ะ”
“ห๊ะ!?”
“วันนี้นายอยู่กับยูชอนสองคนนะ ข้าวเช้าฉันเตรียมไว้ให้แล้ว ถ้าหิวก็กินกันได้เลยนะ”
“เฮ้ย! เดี๋ยวสิ ทำไมถึง...”
“ตอนนี้มันจะสายแล้ว ไว้เจอกันตอนเย็น ๆ นะจุนซู”
แจจุงพูดตัดบทด้วยรอยยิ้มแสนหวาน ก่อนจะเดินควงแขนยุนโฮออกไปข้างนอกพร้อม ๆ กัน โดยมีชางมินเดินตามหลังต้อย ๆ จุนซูที่ไม่ทันจะได้ถามอะไรทันก็ได้แต่กระพริบตาปริบ ๆ อย่างงุนงง เสียงปิดประตูที่ดังแว่วมามันทำให้แก้มใสพองขึ้นอย่างไม่พอใจ
...วันเกิดฉันทั้งทียังมาทิ้งกันได้อีก...ชิส์...
...แถมต้องมาอยู่กับไอ้ไก่นั้นสองต่อสองอีก...เฮ้อ~...ให้ตายเหอะ...
ไม่ทันที่จุนซูจะได้บ่นอะไรไปมากกว่านี้ จู่ ๆ ก็มีเสื้อยืดตัวเก่งของเขาที่ไม่รู้มันมาจากไหนเลื่อนมาคลุมหัวเขาเสียมิด ร่างเล็กสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะเลื่อนมือมาดึงให้เสื้อไม่บังภาพภายนอก ใบหน้ามนเงยขึ้นมองหาตัวการที่กระทำเรื่องเมื่อกี้ และก็เป็นไปตามที่คิด เจ้าตัวกำลังยืนยิ้มแป้นแล้นมาให้เขาซะอย่างดิบดีเลยทีเดียว
“ใส่เสื้อได้แล้ว เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก”
ยูชอนติเข้าให้ดอกหนึ่ง ถ้าคำพูดประโยคนั้นหลุดออกมาจากปากของสมาชิกคนอื่น ๆ มันจะเรียกรอยยิ้มประดับบนใบหน้าของจุนซูได้ไม่ยาก แต่ไม่รู้ทำไม เวลาประโยคแบบนี้มันหลุดออกมาจากปากของปาร์คยูชอนทีไร มันมักจะทำให้จุนซูรู้สึกหงุดหงิดปนเสียหน้าแปลก ๆ ยังไงก็ไม่รู้
“ชิส์...เออ ใส่ก็ได้”
ปากบางพูดอย่างไม่สบอารมณ์ แต่ก็ยอมใส่เสื้อตามที่อีกฝ่ายบอกมาอย่างว่าง่าย ยูชอนยิ้มอย่างพอใจก่อนจะเดินพาตัวเองไปนั่งที่โต๊ะกินข้าวอย่างสบายใจ จุนซูที่ใส่เสื้อเสร็จแล้วเดินตามอีกฝ่ายมาอย่างช้า ๆ ร่างสูงกำลังจัดการคีบกับข้าวที่แสนน่ากินเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย ใบหน้าที่ดูเปี่ยมสุขเพราะมีอาหารตกถึงท้องในยามเช้านั้นมันช่างเป็นภาพที่ดูสดใสเสียเหลือเกิน แต่...
...เหมือนมันรู้สึกไม่พอใจแปลก ๆ แหะ...
ความคิดนี้มันแว่บเข้ามาในหัวสมองของจุนซูอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกอยากจะได้อะไรบางอย่างจากร่างสูงที่มักจะแกล้งเขาอยู่เสมอ ริมฝีปากบางงอนเชิดขึ้นเล็กน้อยด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะพาตัวเองมานั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ตรงข้ามกันกับอีกฝ่าย และเตรียมตัวที่จะกินข้าวเช้าแสนอร่อยกับเขาบ้าง
“เฮ้ ยูชอน”
“หืม?”
“วันนี้วันอะไร?”
จุนซูจ้องมองอีกฝ่ายอย่างคาดหวังในคำตอบ ยูชอนมองใบหน้าอีกฝ่ายแก้มตุ่ย ร่างสูงเคี้ยวข้าวที่ยังอยู่ในปากหงุบหงับไปมาสักครู่ก่อนจะกลืนมันลงเพื่อที่จะสามารถพูดตอบอีกฝ่ายได้
“วันจันทร์ไง ทำไมเหรอ?”
‘ปึด...’
เสียงเส้นเลือดข้างขมับของจุนซูที่เริ่มปูดขึ้นมาเล็กน้อยอย่างห้ามไม่อยู่ ร่างเล็กกัดฟันแน่นอย่างหงุดหงิด ไม่ค่อยเข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงคาดหวังที่จะให้อีกฝ่ายจำวัน ๆ นี้ได้นักก็ไม่รู้ รู้สึกน้อยใจแปลก ๆ เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นจำวันพิเศษสำหรับเขาในวันนี้ไม่ได้
“ช่างมันเหอะ ไม่มีอะไรหรอก”
...ทำไมฉันจะต้องน้อยใจหมอนี่ด้วยเนี่ย?...
จุนซูจัดการคีบข้าวเข้าปากอย่างไม่ใส่ใจในเรื่องที่เกิดขึ้น พลางคีบกับข้าวนู่นนี่มากิน ยูชอนมองคนที่นั่งตรงข้ามอย่างงุนงง ก่อนจะลงมือแย่งกันกินกับข้าวมื้อเช้ากับร่างเล็กอย่างเอร็ดอร่อย
“เอาไก่ชิ้นนั้นมานะ~!”
“งั่ม ๆ เสียใจด้วยนะโลมาน้อย ฮ่า ๆ~”
ศึกสงครามขนาดย่อมเกิดขึ้นอีกครั้งในยามเช้าที่ค่อนข้างหนาว แต่มันก็เป็นเพียงแค่สงครามสั้น ๆ เท่านั้น ไม่นานนัก อาหารมื้อเช้าแสนอร่อยก็ย้ายไปอยู่ในท้องของชายหนุ่มทั้งสองเสียแล้ว แต่เนื่องด้วยความขี้เกียจ จุนซูและยูชอนจึงพร้อมใจกันเอาจานชามที่ใช้แล้วไปวางทิ้งไว้ตรงอ่างล้างจาน รอให้แจจุงกลับมาล้างแทน
แต่แทนที่จะมีการเอาของขวัญหรือพูดอวยพรวันเกิดของคิมจุนซูออกมาจากปากของปาร์คยูชอน ร่างสูงกลับเดินไปนั่งดูโทรทัศน์อย่างสบายใจเฉิบ ใช้ชีวิตไปกับการพักผ่อนอย่างมีความสุข จุนซูนั้นก็นั่งดูอยู่ด้วยเช่นกัน ร่างสูงนั้นนั่งขำก๊ากไปกับรายการวาไรตี้ที่กำลังฉายอยู่อย่างสนุกสนาน แต่ในวันนี้คนเส้นตื้นอย่างเขากลับไม่ได้รู้สึกถึงความสนุกของรายการตรงหน้าเลยสักนิด
...นั่งดูโทรทัศน์มาเกือบจะชั่วโมงแล้วนะ...
...ทำไมยูชอนมันถึงไม่พูดอะไรเลยเนี่ย!?...
จุนซูจิ๊ปากเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ของวัน เขารู้สึกอะไร ๆ มันก็ดูน่าเบื่อหน่ายไปซะหมดในตอนนี้ เหมือนในใจมันกำลังเรียกร้องอะไรบางอย่าง ขอแค่คำพูดสั้น ๆ คำหนึ่งจากปากของใครคนนั้นที่ใจมันเรียกหาเสียเหลือเกิน แต่อีกใจนึงก็แต่ได้ถามตัวเองอยู่ลึก ๆ...
...ทำไมถึงอยากจะได้ยินคำนั้นจากปากหมอนั่นนัก?...
“ยูชอน ฉันถามนายจริง ๆ นะ”
“ฮ่า ๆ ห๊ะ? หืม? อะไร?”
“วันนี้วันอะไรหรอ?”
จุนซูหันไปมองใบหน้าของอีกฝ่าย ดวงตากลมโตนั้นฉายแววคาดหวังอย่างเห็นได้ชัด ยูชอนเลิกคิ้วเป็นเชิงสงสัย นิ้วเรียวเลื่อนมาเกาที่แก้มตัวเองไปมา ตอนนี้ภายในบ้านมีเพียงแค่เสียงโทรทัศน์ที่ยังคงดังอยู่ แต่บรรยากาศของทั้งสองมันกลับดูอึดอัดเสียเหลือเกิน
“วันนี้....ฉันก็บอกแล้วไงว่าวันจันทร์ จะถามอีกทำไมเนี่ย?”
ร่างสูงตอบปัดก่อนจะหันกลับไปสนใจรายการโทรทัศน์ตรงหน้าอีกครั้ง เสียงหัวเราะสดใสที่ดังมาจากร่างสูงนั้นมันกลับเป็นภาพที่ทำให้จุนซูเจ็บจี๊ด ฟันซี่เล็กกัดริมฝีปากล่างของตัวเองไว้แน่น อยากจะด่าตัวเองที่เริ่มจะมีอาการแปลก ๆ อย่างไม่มีสาเหตุเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้
...โอ๊ยยยย...นี้เราเป็นอะไรของเราเนี่ย...
...ทำไมต้องอยากได้ยินคำนั้นจากปากหมอนี่นักนะ...
...ปกติก็ไม่เคยคาดหวังอะไรมากมายนี่...
...ทำไมฉันจะต้องน้อยใจด้วยเนี่ย?...
หยาดน้ำใสที่เริ่มปริ่มมันทำให้จุนซูต้องเบือนหน้าหนีอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว หลังมือบางเลื่อนมาเช็ดหยาดน้ำนั้นออกอย่างลวก ๆ อยากจะได้คำตอบนัก ว่าตอนนี้เขากำลังเป็นอะไร ทำไมมันถึงต้องมีความรู้สึกบ้า ๆ มากวนใจอยู่ได้นักก็ไม่รู้ ทั้ง ๆ ที่ปกติเขากับยูชอนก็จะเอาแต่แกล้งกันเสมอ
...กับคู่กัด...จะไปคาดหวังอะไรจากเค้านักหนา?...
...นั่นมันศัตรูนะ...คนที่ชอบขัดขวางเราซะทุกเรื่องเลยนะนั่นน่ะ...
...แต่...ทำไมวันนี้ฉันถึงเอาแต่คิดถึงหมอนี่เนี่ย?...
จุนซูนั่งเงียบ ไม่ได้ชวนยูชอนคุยหรือชวนทะเลาะกันเหมือนอย่างแต่ก่อน เพราะตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์จะทะเลาะกับอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้เขาอยากจะหนีไปนั่งคนเดียวเสียจริง ไม่อยากจะเห็นหน้าเหมือนไก่ของยูชอนที่เอาแต่นั่งขำก๊ากกับรายการวาไรตี้สุดฮาเลยแม้แต่น้อย พอคิดแบบนั้น จุนซูจึงลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูง ขาเรียวเตรียมจะออกก้าวเดินพาตัวเองกลับไปยังห้องนอน แต่ก็โดนเสียงทุ้มเรียกดักไว้ซะก่อน
“จุนซู นายจะไปไหนน่ะ?”
“ห้องนอน...”
“หรอ ขอหนังสือการ์ตูนในห้องนายหน่อยสิ เรื่องอะไรก็ได้ นายหยิบมาให้ฉันด้วยนะ”
ร่างเล็กขบกรามแน่น นอกจากจะไม่ได้รับคำที่คาดหวังจากอีกฝ่ายแล้ว ยูชอนยังใช้งานเขาเหมือนกับทุก ๆ วันที่ผ่านมาเสียด้วยซ้ำ ความน้อยอกน้อยใจมันแล่นปรี่เข้ามาเสียจนแทบจะผลักดันให้หยาดน้ำใสมันไหลออกมาจากดวงตากลมโต ริมฝีปากบางเม้มแน่น จุนซูเหลือบไปมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของอีกฝ่าย ก่อนจะเบือนหน้าหนี และรีบพาตัวเองไปยังห้องนอนอย่างรวดเร็ว
...พอ...พอกันที!...ไอ้ไก่ขี้ลืม!...
...กะอีแค่วันเกิดฉันยังจำไม่ได้...
...การ์ตูนน่ะ...ฉันไม่หยิบให้หรอก!...
...ฉันไม่อยากจะเห็นหน้านายแล้ว...ปาร์คยูชอน!...
ประตูบานเล็กถูกเปิดออกอย่างแรงเท่า ๆ กับความน้อยในที่จุนซูมีในตอนนี้ ก่อนจะถูกปิดลงด้วยแรงที่มากพอ ๆ กันกับตอนที่ประตูถูกเปิดออก หยาดน้ำใสมันคลอหน่วงอยู่ที่เบ้าตา เขาอยากจะระบายความอัดอั้นที่อยู่ภายในใจออกมาเสียให้หมด แต่เมื่อดวงตากลมมองไปรอบ ๆ ห้อง เมื่อสายตามันหยุดอยู่ตรงโต๊ะทำงานขนาดเล็ก มันทำให้ดวงตากลมนั้นต้องเบิกโพลงอย่างตกใจ
ช่อกุหลาบสีขาวขนาดใหญ่ที่ถูกจัดแต่งมาอย่างสวยงามถูกวางไว้อยู่บนโต๊ะที่แสนคุ้นเคย พร้อมกับรูปภาพที่เขาเคยถ่ายคู่กับยูชอนเมื่อนานมาแล้ว ภาพของเด็กหนุ่มสองคนในชุดนักเรียนที่กอดคอกันด้วยรอยยิ้ม ภาพที่เขากับยูชอนนั้นยังคงจดจำไว้ได้เสมอ ร่างเล็กเดินเข้าไปหาช่อกุหลาบสีขาวที่แสนสวยงามนั่นอย่างรวดเร็ว มือเรียวจัดการหยิบมันขึ้นมาเชยชมและสูดกลิ่นหอมอ่อน ๆ อย่างดีใจ
และเมื่อสังเกตดี ๆ ที่ช่อกุหลาบนั่น การ์ดเล็ก ๆ สีครีมนั่นถูกซ่อนไว้อยู่ตรงกลางของกลุ่มช่อดอกไม้ที่สวยงาม มือเรียวจัดการหยิบมันขึ้นมา และเปิดมันออกเพื่อที่จะดูเนื้อหาภายใน ดวงตากลมโตกรอกไปมาตามตัวอักษรที่มีลายมือที่คุ้นเคย ไม่รู้ว่าทำไม แต่เมื่อเขาได้อ่านข้อความนั้น มันทำให้หยาดน้ำตาที่เริ่มเลือนหายไปเมื่อครู่กลับรื้นขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่
‘วันนี้...วันที่ฉันเฝ้ารออยู่เสมอ...
วันที่ฉันจะได้เห็นรอยยิ้มของใครคนนั้น...คนที่ทำให้ฉันนั้นยิ้มได้แม้ยามที่ฉันเศร้า...
คนที่ทำให้ฉันต้องเผลอลอบยิ้มอย่างมีความสุขเพียงแค่คิดถึง...
แต่ก็นั่นล่ะ...ถ้าบอกกันตรง ๆ แต่แรก มันก็คงจะดูธรรมดาเกินไปใช่มั้ย?
สำหรับใครคนนั้น...ช่อดอกไม้ดอกนี้ ฉันเลือกมาให้จากใจจริง
มันอาจจะไม่ได้เป็นของขวัญที่ดีมากมาย แต่ฉันคิดว่าสีขาวบริสุทธิ์นี่มันเข้ากับคุณมากเลยนะ ^ ^
ปีนี้...ฉันก็ขอมอบของขวัญให้เพียงแค่นี้
กับอีกคำพูดหนึ่ง...ที่ฉันเฝ้ารอ และอยากจะมอบให้ทันทีที่ได้เจอหน้าคุณในวันพิเศษแบบนี้
Happy Birthday นะ โลมาน้อย คิม จุนซู ^ ^
From…ตาไก่ปาร์คของโลมาน้อย’
ไม่รู้ว่าเพราะเขาใช้สมาธิไปกับการอ่านมากเกินไปรึเปล่า ทำให้เขาไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนแอบเข้ามาในห้อง พร้อมกับสวมกอดเขาไว้จากทางด้านหลัง ร่างเล็กสะดุ้งเล็กน้อย รีบใช้หลังมือปาดหยาดน้ำที่รื้นหน่วงอยู่ออกไปอย่างลวก ๆ รู้สึกได้ถึงลมหายใจร้อนของอีกฝ่ายที่รินรดอยู่ที่ต้นคอขาวของเขา แต่สัมผัสที่แสนอ่อนโยนนั่นมันทำให้ใบหน้ามนนั้นขึ้นสีระเรื่ออย่างห้ามไม่อยู่
“จุนซู...สุขสันต์วันเกิดนะ ^ ^”
“ฮึก...ไอ้บ้ายูชอน”
เสียงสะอื้นหลุดออกมาเล็กน้อยจากลำคอเรียว จุนซูผละตัวออกมาจากอ้อมกอดอุ่น และจัดการผลักไหล่อีกฝ่ายเบา ๆ ใบหน้ามนหันหน้าหนีไปอีกทางพร้อมกับก้มหน้างุด ไม่อยากจะให้อีกฝ่ายรู้เลยว่าตอนนี้ใบหน้าของเขามันแดงขนาดไหน แต่ตอนนี้เขารู้สึกใจพองโตจนคับอกไปหมด
...ทำเป็นลืม...แล้วสุดท้ายมาทำแบบนี้เนี่ยนะ...
...รู้มั้ยว่าคนเค้าก็เขินเป็น...ไอ้ยูชอนบ้า!!...
“หึ ๆ หน้าแดงหมดแล้วนะนั่น”
ยูชอนเอื้อมมือไปหวังจะแตะแก้มเนียนใสของร่างเล็ก แต่อีกฝ่ายกลับปัดมือของร่างสูงออกอย่างไร้เยื่อใย ยูชอนที่โดนปฏิกิริยาตอบสนองแบบนั้นจึงทำเสียงโอดครวญเพื่อเรียกความสงสารจากอีกฝ่ายแทบจะทันที
“จุนซู~ ฉันขอโทษ ทีหลังฉันจะไม่ทำเป็นลืมอีกแล้วนะ”
ยูชอนพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ริมฝีปากอิ่มเชิดขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้ตัวเองดูน่ารัก ดวงตาเรียวกระพริบปริบ ๆ ราวกับเด็กกำลังอ้อนวอนขอให้ผู้ใหญ่ซื้อของเล่นให้ มือหยาบกุมเข้าหากันและยกขึ้นมาทาบไว้ที่ปลายคางเสริมความน่ารักให้กับตัวเอง ท่าทางที่แสนออดอ้อนนั้นมันทำให้จุนซูแอบใจอ่อนปนกับการขำอีกฝ่ายไปพร้อม ๆ กัน
...คิก ๆ...คนบ้าอะไรไม่รู้...
...ตัวก็ออกจะสูง...ดันทำตัวเหมือนเด็กพอ ๆ กับฉันซะอีกนะ...
จุนซูไม่ได้บอกยกโทษ แต่กลับเลื่อนมือไปจับต้นคออีกฝ่ายให้เลื่อนลงมา และการกระทำที่ยูชอนคาดไม่ถึงนั้นมันก็ทำให้ร่างสูงต้องนิ่งค้าง ริมฝีปากบางที่เลื่อนมาทาบทับริมฝีปากอิ่มของเขาอย่างแผ่วเบาเพียงแค่แว่บเดียว คนเริ่มก็เบือนหน้าหนีไปอย่างเขินอาย ก่อนจะเอ่ยประโยคแทนความรู้สึกในใจออกมาอย่างเขินอาย ซึ่งเป็นท่าทางที่ดูน่ารักมากในสายตาของปาร์คยูชอนเลยล่ะ...
“ยังไงก็...ขอบใจนะที่ไม่ลืมวันเกิดของฉัน ไอ้ไก่ปาร์ค”
THE END ^ ^
* แถม ๆ *
เมื่อจุนซูพูดจบ ร่างเล็กก็รีบปกปิดใบหน้าที่แดงเถือกของตัวเองโดยการทิ้งตัวลงนอนคว่ำกับเตียงนุ่มของตัวเองอย่างรวดเร็ว ใบหน้ามนซุกลงกับหมอนใบนุ่ม ปกปิดไม่ให้อีกฝ่ายได้เห็นใบหน้าที่แสนน่าอายของตัวเองในตอนนี้
ตอนแรกยูชอนก็กะจะขำในท่าทางที่แสนน่ารักของจุนซูนั่นล่ะนะ แต่...พอเขาหันไปดูอีกฝ่ายที่ทิ้งตัวลงนอนไปแล้ว ร่างเล็กที่ใส่เสื้อยืดพอดีตัว เสื้อยืดที่ร่นขึ้นไปเล็กน้อยจากการทิ้งตัวลงนอนเมื่อครู่เผยให้เห็นขอบบ๊อกเซอร์และเอวบางของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน แล้วยิ่งมองลงมาด้านล่าง ส่วนที่เป็นจุดเด่นของร่างกายร่างเล็กก็ดันเห็นได้อย่างชัดเจนอีกซะอย่างนั้น มันทำให้คนอย่างปาร์คยูชอนต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเสียเหลือเกิน
...ตอนนี้...ไม่มีใครอยู่บ้านนอกจากเรากะจุนซูซะด้วยสิ...
...แล้วแบบนี้...ฉันควรจะให้ของขวัญพิเศษกับนายดีมั้ยเนี่ย?...
THE END >////< (ยังจะจิ้นได้อีก 555+)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น