บทความนี้อาจจะมีฉาก อีโรติก บ้างนะฮะ โปรดใช้จินตนาการในการรับชม ถ้าไม่ชอบก็ปิดหน้านี้ซะ ก๊อปได้นะแต่ให้เครดิตด้วย
Title: Innocent Boy [NC-18]
Paring: Yunho x Jaejoong
Author: ~#DN_LoveR#~
Author Note: ฟิคเรื่องนี้คลอดออกมา เพราะเพื่อนในกลุ่มรีเควสมาให้แต่งยุนแจย้อมใจ เนื่องจากฟิคที่เพื่อนแต่งนั้นโดนไวรัสเล่นงานหายเกลี้ยงซะงั้น ตกระกำลำบากมาที่เราต้องนั่งแต่งฟิคย้อมใจให้เรื่องนึงแทน =_=” ใจจริงอยากแต่งยูซูติดเรทดูบ้าง แต่...ดันนึกออกแต่ยูซูฉากหวาน ๆ ซะงั้นเลยอ่ะ T^T หน้าของนุ้งพร้าวมันน่ารักเกินกว่าจะจิ้นให้ฟิคติดเรทได้ (ใจจริงไม่อยากให้ตาปาร์คได้แอ้มนุ้งพร้าวอ่านะ หวง ๆ คุ ๆ) เอาเป็นยุนแจไปก่อนคงไม่เป็นไรเนอะ *-* อีกอย่าง ที่บอกว่าเรท NC-18 นี้เบลล์ก็ไม่รู้กำหนดถูกรึเปล่านะ สุ่ม ๆ ไปอย่างนั้นแหละ ใครว่ามันแรงกว่า 18 ก็บอกกันได้น้า เบลล์จะได้ลดความแรงลง 555+ (เรื่องนี้ยาวเว่อร์หน่อยนะคะ ชดเชยที่หายไปนาน)
+:+:+:+:+:+:+ Innocent Boy +:+:+:+:+:+:+
“อื้ม...อ๊า...ยุนโฮ อย่าแรงนักสิ...”
ร่างบางที่ไร้เสื้อผ้าอาภรณ์ปกปิดเรือนร่างขาวเนียนพูดเสียงสั่น แม้ว่าเสียงหวานจะพูดเตือนออกมา แต่แก่นกายแกร่งของคนด้านบนกลับกระแทกใส่เข้ามาในช่องทางรักของเขาแบบไม่ยั้งแรงแม้แต่นิด
“อา...แต่นายก็รู้สึกดีไม่ใช่หรอ แจจุง...อื้ม”
เสียงทุ้มต่ำพูดออกมาอย่างแหบพร่าพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ช่องทางสีหวานของร่างบางนั้นตอดรัดแก่นกายเขาแน่นจนรู้สึกเสียวซ่านเกินบรรยาย ทำให้เขายิ่งอยากจะกระแทกแก่นกายของตัวเองให้มันแรงกว่าเดิมอีกเสียด้วยซ้ำไป แจจุงไม่ได้พูดเถียง แต่กลับเบือนหน้าหนีไปอีกทางอย่างเขินอาย ท่าทางที่น่ารักนั่นมันทำให้อารมณ์ของร่างสูงปะทุขึ้นสูงมากกว่าเดิม จนเขาอดไม่ได้ที่จะกระแทกแก่นกายให้แรงขึ้นเพื่อเรียกเสียงครางหวานให้ออกมาจากริมฝีปากสีแดงสด
“อ๊า!!...อ๊ะ!...ฮ้า~...สะ...เสียวจังเลยยุนโฮ...”
ใบหน้าคมก้มลงมอบจุมพิตแสนเร่าร้อนให้กับร่างบาง ในขณะที่สะโพกแกร่งก็ยังคงขยับต่อไป ลิ้นร้อนที่สอดเข้าไปในโพรงปากนุ่มเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นเล็กจนแทบจะกลืนกันเป็นชิ้นเดียวกัน ความหอมหวานของอีกฝ่ายนั้นมันทำให้เขารู้สึกราวกับต้องมนต์ ไม่ว่าจะทำสักกี่ครั้ง ความหอมหวานนี้มันไม่อาจทำให้เขาลดความอยากลงได้เลยแม้แต่นิด
“อื้ม...อ๊า...แจจุง...รัดฉันอีกสิ...รัดให้แน่นกว่านี้อีก...อา”
“ฮ้า...อ๊ะ...ยุนโฮ...”
.
.
.
.
‘กริ๊งงงงงงงงง!!!!’
เสียงนาฬิกาปลุกส่งสัญญาณให้ผู้ที่หลับใหลตื่นจากความฝันอันแสนหอมหวาน มือหยาบจัดการเลื่อนไปกดปุ่มบนนาฬิกาที่แผดเสียงอันแสบแก้วหูให้เงียบลง ร่างสูงนอนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะขยับหัวที่ผมยุ่งไม่เป็นทรงขึ้นมามองนาฬิกาปลุกของตัวเองอย่างหงุดหงิด ตาเรียวจ้องเขม็งไปที่ของที่อยู่ใต้ฝ่ามืออย่างอาฆาตแค้นที่บังอาจมาขัดจังหวะการฝันหวานของเขา
“ชิส์...กำลังฝันดีอยู่แท้ ๆ เชียว...”
เสียงทุ้มพูดอย่างหงุดหงิดด้วยน้ำเสียงงัวเงีย ก่อนจะใช้ท่อนแขนแกร่งของตัวเองยันตัวให้ลุกขึ้นนั่งบนเตียงนุ่ม ผ้าห่มผืนใหญ่ที่ปกปิดเรือนร่างอยู่เมื่อครู่เลื่อนลงมากองอยู่ที่หน้าขา เผยให้เห็นร่างกายที่มีกล้ามเนื้อสมส่วน และผิวสีแทนนั้นทำให้ร่างของคนตรงหน้านั้นดูมีเสน่ห์ขึ้นมาอีกหลายเท่าเลยทีเดียว
ริมฝีปากอิ่มบ่นพึมพำคล้ายกับกำลังสาปแช่งนาฬิกาปลุกประจำตัวของตัวเอง เนื่องจากมาขัดจังหวะการฝันหวานของเขา ที่ช่วงนี้เขามักจะฝันเห็นใบหน้าอันแสนหวานของชายหนุ่มที่ชื่อแจจุงอยู่เสมอ แต่ไม่ว่าจะฝันบ่อยสักแค่ไหน เจ้านาฬิกาปลุกตัวดีนี่ก็มักจะขัดจังหวะเขาซะทุกทีไป
...เฮ้อ...ฝันแบบนี้บ่อย ๆ มันก็น่าดีใจอยู่หรอกนะ...
...แต่ดันฝันไม่เคยจบสักทีนี่สิ...ทำเอาอารมณ์ค้างทุกที...
และทันทีที่คิดแบบนั้น ใบหน้าคมก็ก้มลงมามองด้านล่าง ทำให้เห็นแก่นกายแกร่งที่ตั้งชันขึ้นเพราะแรงอารมณ์ และความรู้สึกชื้น ๆ ที่ปลายยอดนั้นทำให้เขาต้องถอนหายใจเฮือกออกมาอีกครั้งกับความอนาถในตัวเอง ก่อนจะจัดการดึงผ้าห่มออก และเลื่อนตัวลงมาจากเตียงนุ่ม ใช้ขาเรียวยาวเดินพาตัวเองเข้าไปในห้องน้ำที่มีอยู่ภายในตัวห้องนอนเพื่อไปปฏิบัติภารกิจปลดปล่อยอารมณ์ของตัวเองให้เสร็จเรียบร้อย...
...สุดท้ายก็ต้องมาช่วยตัวเองเหมือนเดิม...
...หรือว่า...ฉันไม่ควรจะปล่อยให้มันเป็นความฝันต่อไปดีนะ?...
...แล้วฉันควรจะทำยังไงดีน้า~...
+:+:+:+:+:+:+ Innocent Boy +:+:+:+:+:+:+
ร่างสูงที่สวมใส่ชุดสูทเรียบกริบสีดำราคาแพงก้าวเดินเข้าไปในตัวบริษัทขนาดใหญ่ซึ่งตัวเองนั้นเป็นเจ้าของ เสื้อผ้าที่ทำให้คนใส่นั้นดูมีเสน่ห์มากขึ้นอีกหลายเท่าตัวนั้นมันช่างเข้ากับร่างกายที่สมส่วนของร่างสูงอย่างหาข้อติไม่ได้ และทรงผมซอยสั้นสีน้ำตาลเปลือกไม้ที่เข้ากันกับใบหน้าเรียวคมนั่น ส่งผลให้พนักงานและลูกค้าหลายคนนั้นต้องเบนสายตาจากตำแหน่งอื่นมามองที่ร่างสูงกันเป็นตาเดียวอย่างละสายตาไม่ได้
ถึงแม้ว่าร่างสูงจะรู้ว่ามีสายตานับหลายสิบคู่กำลังจ้องมองมาที่เขา แต่เขากลับไม่รู้สึกตกใจหรือประหม่าอะไรแม้แต่น้อย แต่กลับรู้สึกเฉย ๆ จนบางทีอาจจะเอือมระอากับสายตาแบบนั้นไปแล้วก็ได้ นิ้วเรียวจัดการกดลงบนปุ่มสี่เหลี่ยมขนาดเล็กเพื่อที่จะขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นที่มีห้องทำงานของตนอยู่
ครู่หนึ่งตู้สี่เหลี่ยมขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ก็มาถึง ประตูลิฟต์เปิดออกก่อนจะตามด้วยขาเรียวที่เดินพาร่างของตัวเองแทรกเข้าไปอยู่ด้านในตู้สี่เหลี่ยมที่ไร้ผู้คน ดวงตาคมเหลือบไปมองด้านนอกเพื่อดูว่ามีคนจะเดินเข้ามาอีกหรือไม่ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครเดินมา นิ้วเรียวจึงเลื่อนไปเพื่อที่จะกดปุ่มให้ประตูลิฟต์ปิดลง
“รอผมด้วยครับ~~”
นิ้วเรียวยาวชะงักเมื่อได้ยินเสียงของใครอีกคนดังมาจากด้านนอก จากที่จะกดปุ่มปิด นิ้วเรียวก็เลื่อนไปกดปุ่มให้ประตูลิฟต์เปิดออกค้างไว้ ชายหนุ่มร่างเล็กคนหนึ่งเดินเข้ามาด้านในพร้อมกับแฟ้มที่สูงจนแทบจะบังใบหน้าของตัวเองไว้จนมิด เมื่อยุนโฮเห็นว่าอีกฝ่ายเดินเข้ามาเรียบร้อยแล้ว นิ้วเรียวจึงจัดการกดปิดประตูลิฟต์ในทันที
แต่เพราะความสงสัยปนความรู้สึกคุ้นเคยกับน้ำเสียงและลักษณะท่าทางของอีกฝ่ายที่ตัวเองได้เห็นเมื่อครู่ ใบหน้าคมจึงหันไปมองใบหน้าของอีกฝ่ายให้ชัดเจน และทันทีที่เขาเห็นใบหน้าของอีกฝ่าย ดวงตาคมก็เบิกโพลงด้วยความตกใจเล็กน้อย ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันที่อีกฝ่ายนั้นหันมามองใบหน้าเขาด้วยเช่นกัน
“อ้าว ท่านประธาน สวัสดีครับ”
“อื้ม สวัสดี แจจุง”
ร่างสูงยกยิ้มให้อีกฝ่ายเล็กน้อย แจจุงที่เห็นแบบนั้นก็ยกยิ้มน่ารักเป็นการตอบกลับอีกฝ่าย โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่า การกระทำแบบนั้นของตัวเองทำให้อีกฝ่ายนั้นใจเต้นระรัวมากเพียงใด
ทั้งสองเพิ่งจะได้ทักทายกันเพียงแป๊ปเดียว ลิฟต์ก็หยุดกึกอยู่ที่ชั้นทำงานของทั้งสองในเวลาอันสั้น ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก แจจุงรีบก้าวขาของตัวเองออกมาด้านนอก ก่อนจะตามด้วยร่างสูงโปร่งที่เดินออกมาไม่ห่างกันเท่าไรนัก
“ฉันช่วยถือนะ”
แจจุงหันไปมองใบหน้าของผู้เป็นเจ้าของเสียงทุ้มต่ำ ซึ่งยังไม่ทันทีเขาจะได้พูดคัดค้าน มือหยาบก็จัดการแย่งแฟ้มภายในมือของเขาไปเสียเกือบหมด แจจุงได้แต่กระพริบตาปริบ ๆ ด้วยความงุนงง แต่สิ่งที่ได้รับจากอีกฝ่ายกลับเป็นรอยยิ้มบาง ๆ ราวกับเป็นการขอบคุณเขาแทนซะอย่างนั้น
ร่างสูงเดินนำตรงไปยังโต๊ะทำงานตัวประจำของร่างบาง โดยมีเจ้าของโต๊ะเดินตามต้อย ๆ อยู่ด้านหลัง ยุนโฮนั้นเดินไปเรื่อย ๆ โดยที่จงใจทำเป็นไม่รู้สึกถึงสายตาของพนักงานหลายสิบคู่ที่หันมามองเขากับแจจุงกันเป็นตาเดียว ใช้เวลาไม่นานขาเรียวยาวก็เดินพาตัวเองมาหยุดอยู่ที่โต๊ะทำงานของแจจุงได้อย่างรวดเร็ว มือหยาบจัดการวางแฟ้มงานลงบนโต๊ะให้เรียบร้อย พร้อมกับหันหลังไปหยิบแฟ้มที่เหลือในมือของอีกฝ่ายมาวางให้ด้วย
“เรียบร้อยแล้วใช่มั้ย?”
ใบหน้าคมหันมาถามคนตัวเล็กกว่าด้วยรอยยิ้ม แจจุงพยักหน้าหงึกหงักเป็นการตอบอีกฝ่ายกลับไป ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม และกล่าวคำขอบคุณออกไป
“ขอบคุณนะครับ ท่านประธาน”
“ไม่เป็นไรหรอก”
ยุนโฮยกยิ้มให้อีกฝ่าย มือหยาบเลื่อนมาลูบเรือนผมนุ่มสีดำสนิทเบา ๆ อย่างนึกเอ็นดู ก่อนจะผละตัวเดินออกจากบริเวณโต๊ะทำงานของแจจุงเพื่อที่จะพาตัวเองไปทำงานภายในห้องส่วนตัวของตน แจจุงหันหน้าไปมองอีกฝ่ายจนกระทั่งร่างสูงนั้นเดินลับสายตาไป ร่างบางจึงยกยิ้มออกมาอย่างสบายใจ
แต่ดูเหมือนว่าความสบายใจที่มีเมื่อตะกี้นี้ต้องปลิวหายไปอย่างรวดเร็ว เมื่อจู่ ๆ เพื่อนพนักงานทั้งหลายต่างกรูเข้ามารุมเขาแทบจะทุกคน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นผู้หญิงแทบทั้งนั้น เสียงแหลมสูงของหลาย ๆ คนนั้นต่างแย่งกันพูดไปมาจนแจจุงเริ่มจะมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน
“นี่ ๆ ๆ ทำไมท่านประธานถึงช่วยนายถือแฟ้มล่ะ นายทำยังไงหรอแจจุง??”
“ทำไมแจจุงกับท่านประธานถึงดูสนิทกันจังเลยล่ะ? นายรู้จักกับท่านประธานเป็นการส่วนตัวรึเปล่า??”
“แจจุง นายคุยกับประธานยังไงอ่ะ ท่านประธานถึงได้ดูเอ็นดูนายมากขนาดนี้??”
คำถามนับสิบที่พนักงานแย่งกันถามนั้นทำให้บริเวณนั้นแทบจะกลายเป็นการจลาจลขนาดย่อมเลยทีเดียว แจจุงกระพริบตาปริบ ๆ อย่างงุนงง เพราะเขาไม่รู้ว่าเขาควรจะตอบคำถามไหนก่อนดี ใบหน้าหวานหันไปมองใบหน้าของคนถามแต่ละคนไปมาผ่าน ๆ และเมื่อริมฝีปากสีแดงสดเริ่มขยับเหมือนกับจะพูด เสียงแหลมสูงของพนักงานหญิงที่ดังอยู่เมื่อตะกี้นี้ก็เงียบหายไปอย่างรวดเร็วราวกับปิดสวิตซ์
“ฉันไม่รู้ ก็ตอนที่ฉันขึ้นลิฟต์ท่านประธานก็กำลังจะขึ้นมาพอดีเหมือนกัน เค้าก็เลยช่วยฉันถือแฟ้มมาเนี่ย”
“จริงหรอ!? อ๊ายยยย แจจุง ทำไมนายถึงเป็นคนที่โชคดีขนาดนี้เนี่ย!?”
“ใช่ ๆ ๆ กว่าพวกเราจะได้มีโอกาสอยู่ใกล้ ๆ ท่านประธานนี้มันยากมากเลยนะรู้มั้ย!!”
เมื่อแจจุงตอบออกไปอย่างนั้น เสียงบ่นอิจฉาของเหล่าหญิงสาวก็หลุดออกมานับพันประโยค พร้อม ๆ กับการสลายตัวของกลุ่มจลาจลขนาดย่อม ทำให้แจจุงหายใจได้ทั่วท้องมากขึ้น แต่ใบหน้าหวานก็ยังคงหันไปมองพนักงานที่วิ่งเข้ามาหาเขาตะกี้ด้วยความงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อตะกี้นี้
...ก็แค่ท่านประธานช่วยถือแฟ้มมาให้ที่โต๊ะทำงาน...
...มันมีอะไรน่าอิจฉาหรอ???...
มือบางยกขึ้นเกาหัวกลมของตัวเองอย่างสงสัย ถึงแม้ว่าพวกผู้หญิงจะเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานของพวกเธอกันแล้ว แต่เขาก็ยังคงได้ยินเรื่องที่เหล่าหญิงสาวพูดคุยกันอยู่ ไม่ว่าจะคำพูดที่บอกว่า ‘ท่านประธานหล่อ รวย เก่ง เพอร์เฟ็คไปซะทุกอย่าง’ ก็ยังคงมีหลุดมาให้ได้ยินจากริมฝีปากบางของหญิงสาวหลาย ๆ คน แต่แจจุงนั้นกลับไม่เข้าใจในสิ่งที่พนักงานหลาย ๆ คนพูดอยู่เหมือนเคย
“ก็แค่ท่านประธานเป็นคนมีน้ำใจ...ทำไมต้องมาอิจฉาฉันกันด้วยล่ะ?”
+:+:+:+:+:+:+ Innocent Boy +:+:+:+:+:+:+
ร่างสูงกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้นุ่มตัวใหญ่สีดำภายในห้องทำงานที่กว้างขวาง แผ่นหลังแกร่งอนพิงไปกับผนักนุ่มแสนสบาย ตรงหน้ามีโต๊ะทำงานซึ่งทำมาจากไม้ราคาแพงตั้งอยู่ พื้นห้องถูกปูด้วยพรมนิ่มสีเทา ผนังห้องนั้นถูกทาไว้ด้วยสีครีมที่ดูสบายตา ยกเว้นแต่ผนังที่อยู่ด้านหลังของเขาที่ถูกสร้างไว้เป็นกระจกเพื่อที่จะให้เขาได้เห็นภาพวิวทิวทัศน์อันสวยงามในเมืองใหญ่ได้ในยามค่ำคืน นอกจากนั้นยังมีโซฟาสีเข้มที่ถูกวางไว้ด้านหนึ่งของห้องเพื่อใช้สำหรับนอนหรือนั่งพักผ่อนได้ และมีต้นไม้ที่ใช้ประดับอยู่ภายในห้องเล็กน้อยเพื่อให้บรรยากาศนั้นดูสดชื่นมากยิ่งขึ้น
ถึงแม้ว่าตรงหน้าจะมีงานของตัวเองวางกองไว้อยู่ แต่ตอนนี้ยุนโฮนั้นไม่มีอารมณ์ที่จะลงมือทำงานเลยแม้แต่นิด อาจจะเป็นเพราะสิ่งที่เขาเพิ่งจะทำและได้เจอไปเมื่อเช้านี้ มันทำให้จิตใจของเขานั้นมันไม่ค่อยจะอยู่กับเนื้อกับตัวสักเท่าไหร่
ภาพใบหน้าหวานของพนักงานชายภายในบริษัทตัวเองนั้นกลับตรึงสายตาคมของเขาไว้ทุกครั้งที่เขาหันไปเห็น ยิ่งนึกถึงมันยิ่งทำให้เขาแทบจะกลายเป็นบ้า ดวงตากลมโตสีนิลที่ดูใสซื่อ ริมฝีปากอิ่มสีแดงสดที่ตัดกับผิวขาวเนียน เรือนผมซอยสั้นระต้นคอสีดำสนิทที่ล้อมกรอบใบหน้าขาวเนียนให้ดูเด็กแต่มันทำให้ร่างบางนั้นดูลึกลับน่าค้นหาได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้ง ๆ ที่สิ่งที่อีกฝ่ายหนึ่งแสดงออกมานั้นเขาก็รับรู้ได้เลยว่าแจจุงนั้นใสซื่อมากขนาดไหน
“ฉันควรจะทำยังไงดีนะ?...”
ยุนโฮพูดบ่นกับตัวเองเบา ๆ ตอนนี้เขารับรู้ได้เลยว่าตัวเองนั้นคงเป็นบ้าไปแล้ว ขนาดไม่ได้เห็นหน้าของอีกฝ่าย ดวงตาคมของเขากลับเห็นภาพของแจจุงลอยขึ้นมาซะอย่างนั้น มือหยาบเลื่อนขึ้นมาขยี้ผมซอยสั้นสีน้ำตาลเปลือกไม้ของตัวเองไปมาเพื่อไล่ความคิดบ้า ๆ ออกไปจากสมอง
ร่างสูงถอนหายใจพรืดออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน เขาควรจะทำยังไงให้แจจุงนั้นไม่สามารถหลีกหนีไปจากเขาได้ เขาอยากจะให้แจจุงนั้นเป็นของเขาเพียงคนเดียว แต่ถ้าหากบอกกับแจจุงไปตรง ๆ ถึงอีกฝ่ายจะใสซื่อขนาดไหน เขานี่ล่ะที่จะโดนแจจุงนั้นเกลียดเอา
‘ก๊อก ๆ’
เสียงเคาะประตูเรียกให้ร่างสูงนั้นหลุดจากภวังค์อันแสนเครียด ยุนโฮขยับจัดท่านั่งของตัวเองให้ดีก่อนที่จะส่งเสียงตอบกลับไปเป็นการอนุญาตอีกฝ่ายให้เข้ามาภายในห้องได้
“เข้ามาได้”
‘แอ๊ด~’
“ผมเอางานมาส่งครับ”
เสียงที่ดังเล็ดลอดมาก่อนเจ้าตัวจะแทรกตัวเข้ามาในห้องได้นั้นทำเอาดวงตาคมเบิกโพลง เสียงหวานที่คุ้นเคยและเขาจดจำได้อย่างแม่นยำที่ดังมานั้นแทบจะทำให้สติของเขาปลิวหายไปอย่างรวดเร็ว แจจุงกำลังเดินเข้ามาหาเขา ร่างบอบบางที่สวมใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาวกับเนคไทสีเข้ม คู่กับกางเกงสแล็คสีดำนั้นดูเหมาะกับร่างบางเป็นอย่างมาก แต่ทั้ง ๆ ที่ยุนโฮควรจะสนใจแฟ้มภายในมือบาง ดวงตาคมกลับหยุดมองอยู่ที่ใบหน้าหวานที่ดูมีเสน่ห์แทนซะอย่างนั้น
“นี่ครับ งานเสร็จเรียบร้อยแล้วนะครับ”
มือบางวางแฟ้มสีดำภายในมือลงบนโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ของผู้เป็นประธานบริษัท ก่อนจะก้มตัวลงเล็กน้อยเป็นการแสดงความเคารพ และเมื่อร่างบางหันหลังกลับเพื่อที่จะเดินออกจากห้องไป ยุนโฮที่นั่งอึ้งอยู่ก็เริ่มมีสติกลับมาอีกครั้ง จึงรีบส่งเสียงเรียกไม่ให้อีกฝ่ายออกไปจากห้องซะก่อน
“เดี๋ยวก่อนแจจุง!”
“ครับ?”
แจจุงหันกลับมามองใบหน้าเจ้าของเสียงทุ้มต่ำอีกครั้งหนึ่ง ยุนโฮกำลังจ้องมองมาที่เขานิ่ง ท่าทางของร่างสูงนั้นดูอึกอักเล็กน้อยแต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก ยุนโฮเม้มริมฝีปากครู่หนึ่ง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยกยิ้มที่ดูมีเสน่ห์แอบแฝงไว้มากทีเดียว
“ตอนเลิกงาน มาหาฉันที่ห้องด้วย ฉันจะพานายไปฉลองสักหน่อยน่ะ”
แจจุงกระพริบตาปริบ ๆ อย่างงุนงง ริมฝีปากสีแดงสดที่ดูนุ่มนิ่มนั่นเชิดขึ้นเล็กน้อย ท่าทางที่แสดงถึงความสงสัยที่แสนน่ารักนั่น ทำให้ยุนโฮต้องเผลอยกยิ้มขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่
“ฉันเห็นว่านายทำงานดี ฉันเลยจะพานายไปฉลองเป็นรางวัลสำหรับนายไง”
เมื่อร่างสูงพูดอธิบาย แจจุงก็ส่งเสียงในลำคอเบา ๆ เป็นการบอกว่าเข้าใจในสิ่งที่อีกฝ่ายพูดแล้ว ร่างบางยกยิ้มน่ารัก ก่อนจะก้มตัวลงให้อีกฝ่ายเล็กน้อยเป็นการแสดงความขอบคุณ
“เข้าใจแล้วครับ ขอบคุณนะครับ ท่านประธาน”
“ไม่เป็นไร เลิกงานเมื่อไหร่ก็อย่าลืมมาหาฉันล่ะ”
“ครับ”
เมื่อบทสนทนาของทั้งคู่สิ้นสุดลงแล้ว ร่างบางก็หันหลังเดินออกไปจากห้องทำงานหรูของผู้เป็นประธานเพื่อไปทำงานชิ้นอื่นต่อให้เสร็จเรียบร้อย โดยที่เจ้าตัวนั้นไม่เคยรู้ตัวเลยว่า ระหว่างการสนทนาเมื่อครู่นั้น ยุนโฮนั้นแอบยกยิ้มเจ้าเล่ห์ไปให้ร่างบางอยู่หลายครั้งเลยทีเดียว
‘ปัง’
เสียงปิดประตูที่ดังขึ้น นั้นทำให้ยุนโฮนั้นสามารถยกยิ้มและหัวเราะในลำคอได้โดยไม่ต้องปิดบัง นิ้วเรียวเลื่อนมาจับที่ปลายคางอย่างใช้ความคิด เพียงแค่เขานึกถึงแผนการที่เขาจะทำภายในค่ำคืนนี้ ราวกับปีศาจที่อยู่ภายในตัวของเขานั้นกำลังเริงระบำไปมากันอย่างสนุกสนาน เสียงหวานที่น่าฟังของร่างบาง ใบหน้าขาวเนียนที่งดงามจนเขาไม่อาจจะละสายตาไปได้ แล้วยังเรือนร่างที่อยู่ภายใต้เสื้อผ้าที่เขาต้องการจะเห็นและสัมผัส คิดเพียงแค่นั้น มันก็ทำให้เขาต้องเผลอแลบลิ้นเลียริมฝีปากที่แห้งผากอย่างกระหาย
“คืนนี้คงจะเป็นคืนที่สนุกแน่ ๆ...”
...นายคิดว่างั้นมั้ย...แจจุง...
+:+:+:+:+:+:+ Innocent Boy +:+:+:+:+:+:+
ช่วงเวลาในวันนี้ผ่านไปอย่างรวดเร็วราวกับเป็นเรื่องโกหก ท้องฟ้าสีครามสดใสเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีส้มอ่อนที่ดูอบอุ่น ร่างของชายหนุ่มสองคนกำลังนั่งอยู่ในรถคันหรูของท่านประธาน ยุนโฮกำลังพาตัวเองและแจจุงไปยังสถานที่แห่งหนึ่งที่เขาคิดจะพาแจจุงไปฉลองในวันนี้อย่างไม่เร่งรีบ สายตาคมแอบเหลือบมองคนหน้าหวานที่หันไปมองทิวทัศน์ของเมืองผ่านกระจกใสด้วยรอยยิ้มที่คาดเดาความหมายไม่ได้
...ใกล้จะถึงเวลานั้นแล้วสินะ...
...เวลาที่ฉันกับนายจะได้สนุกไปพร้อม ๆ กัน...
รถคันหรูเลี้ยวเข้าไปในลานจอดรถของผับแห่งหนึ่ง ร่างสูงจัดการดับเครื่องและเปิดประตูพาตัวเองออกมาจากตัวรถ มือเรียวจัดการปิดประตูรถลงด้วยแรงที่ไม่เบานัก ก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้อีกคนที่กำลังจะลงมาจากรถเช่นเดียวกัน
“ขอบคุณครับ”
เสียงหวานเอ่ยขอบคุณด้วยรอยยิ้มน่ารัก ก่อนจะพาตัวเองออกมาด้านนอก ยุนโฮยกยิ้มให้อีกฝ่ายบาง ๆ เป็นการตอบกลับ ก่อนจะจัดการปิดประตูรถลงให้เรียบร้อย
“งั้น ‘เรา’ ไปฉลองกันดีกว่านะ แจจุง”
ยุนโฮพูดโดยเน้นคำที่แสดงถึงความต้องการที่อยากจะแปรเปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างเขากับแจจุงออกมาอย่างชัดเจน แต่ร่างบางนั้นกลับไม่ได้เอะใจกับคำพูดที่เปลี่ยนไปของอีกฝ่ายเลยแม้แต่นิด และเมื่อยุนโฮนั้นรู้แล้วว่าอีกฝ่ายนั้นไม่รู้ตัว มันก็ทำให้เขาต้องยกยิ้มมุมปากขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่
...ใสซื่อ...บริสุทธิ์...ราวกับเด็ก ๆ...
...บริสุทธิ์...จนฉันอยากจะครอบครองไว้เพียงคนเดียว...
...บริสุทธิ์...จนฉันอยากจะทำรอยตีตราไว้บนเรือนร่างนั่น...
ร่างสูงเป็นฝ่ายเดินนำเข้าไปยังด้านในตัวผับ โดยมีแจจุงเดินตามหลังอยู่ไม่ห่างนัก ช่วงเวลาเกือบค่ำนั้นเป็นช่วงที่ลูกค้ามากหน้าหลายตาเริ่มที่จะทยอยกันมาที่สถานที่เที่ยวในยามค่ำคืนแบบนี้เพื่อคลายเครียดจากการทำงาน ร่างของชานหนุ่มสองคนเดินกลุ่มผู้คนจำนวนหนึ่งไปจนเกือบจะถึงหลังร้าน ยุนโฮพาแจจุงให้เดินขึ้นบันไดไปอีกชั้นหนึ่งของผับแห่งนี้ แจจุงที่ยังงุนงงอยู่ก็ทำเพียงแค่เดินตามประธานบริษัทไปเท่านั้น
ชั้นสองของผับนั้นถูกแบ่งออกเป็นห้องหลายห้อง ร่างสูงเดินพาร่างของตัวเองไปยังหน้าห้องที่อยู่ด้านในสุด มือหยาบจัดการเปิดประตูก่อนจะแทรกตัวผ่านเข้าไปยังด้านในตัวห้อง และตามด้วยแจจุงที่แทรกตัวผ่านเข้ามาด้านในตัวห้องด้วยเช่นกัน
ดวงตากลมโตมองสอดส่องไปรอบ ๆ ห้องด้วยความสงสัย ห้องสี่เหลี่ยมขนาดไม่ใหญ่และไม่เล็กจนเกินไปที่ถูกตกแต่งไว้ไม่มากนัก แต่ก็ดูดีจนเขานั้นก็ยังแปลกใจนัก ตรงกลางห้องมีโซฟาตัวยาวสีดำสองตัวตั้งหันเข้าหากัน ตรงกลางระหว่างโซฟานั้นมีโต๊ะกระจกขนาดเล็กตั้งไว้พร้อมกับขวดไวน์และแก้วไวน์จำนวนหนึ่ง แสงไฟภายในห้องนั้นเป็นสีเหลืองนวลที่ดูอบอุ่นและเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่น่าหลงใหล ตรงมุมห้องมีต้นไม้ต้นเล็ก ๆ ประดับอยู่เล็กน้อย ผนังห้องที่ถูกตกแต่งด้วยลวดลายสีสันต่าง ๆ นอกจากนั้นยังมีเพลงคลอเบา ๆ ชวนให้ผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้ายิ่งนัก
“ว้าว~ หรูชะมัดเลย~”
แจจุงพูดกับตัวเองเบา ๆ แต่เพราะอยู่กันเพียงแค่สองคน ทำให้ยุนโฮนั้นได้ยินน้ำเสียงหวานที่ฟังดูใสซื่อนั้นเต็มสองรูหู ร่างสูงหลุดหัวเราะออกมาเล็กน้อยกับท่าทางที่น่าเอ็นดูของอีกฝ่าย ขาเรียวเดินพาตัวเองไปนั่งบนโซฟาตัวนุ่ม ก่อนจะจัดการเปิดขวดไวน์ราคาแพงที่ถูกวางไว้บนโต๊ะกระจกขนาดเล็ก
ร่างบางที่เผลอมองดูบรรยากาศภายในห้องนานไปหน่อย พอเริ่มรู้สึกตัวว่าอีกฝ่ายนั้นเดินไปนั่งที่โซฟาแล้ว แจจุงก็รีบก้าวขาพาตัวเองไปนั่งที่โซฟาที่อยู่ตรงข้ามกันกับร่างสูง แก้วไวน์ใสใบหนึ่งถูกยุนโฮเลื่อนมาหยุดอยู่ตรงหน้าชายหนุ่มร่างบาง ตามด้วยน้ำสีทับทิมที่ถูกรินไหลลงสู่แก้วใบสวยโดยฝีมือของร่างสูง
“นี่เป็นรางวัลสำหรับนาย แจจุง”
ยุนโฮยกยิ้มให้อีกฝ่าย แจจุงที่ได้ยินแบบนั้นก็ยกยิ้มพร้อมก้มหัวให้เล็กน้อยเป็นการขอบคุณ แต่มือเรียวกลับไม่ได้ยื่นไปหยิบแก้วไวน์ตรงหน้าขึ้นมาจิบแม้แต่น้อย กลับใช้ดวงตากลมโตจดจ้องนิ่งราวกับมันเป็นสิ่งที่น่าสงสัย ท่าทางแบบนั้นมันทำให้ร่างสูงต้องขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อยด้วยความฉงนใจ
“มีอะไรหรอแจจุง?”
“เอ่อ...ท่านประธานครับ”
“หืม?”
“คือ...ผมไม่เคยดื่มไวน์อ่ะ”
แจจุงมองใบหน้าของอีกฝ่ายตาปริบ ๆ ริมฝีปากบางงอนเชิดขึ้นเล็กน้อยอย่างน่ารัก ยุนโฮที่ได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายทำเพียงแค่ส่งสายตาราวกับตกใจที่อีกฝ่ายนั้นไม่เคยดื่มไวน์มาก่อน แต่ความจริงแล้วคำพูดของแจจุงราวกับสิ่งที่ปลุกปีศาจภายในตัวของยุนโฮให้ตื่นขึ้นมากกว่าเดิม เขากำลังพยายามที่จะกลั้นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่เขาอาจจะเผลอหลุดยิ้มออกมาให้อีกฝ่ายเห็นได้
...ไม่นึกเลยแหะว่าจะบริสุทธิ์ได้ถึงขนาดนี้...
...แบบนี้...ก็เข้าแผนของฉันเลยนะสิ...
“อ้าว จริงหรอ งั้นก็ลองดื่มดูสิ อร่อยนะ”
ยุนโฮพูดเชิญชวนอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่จะเริ่มรินน้ำสีทับทิมลงในแก้วของตัวเองบ้าง แจจุงหยิบแก้วไวน์ของตัวเองขึ้นมามองใกล้ ๆ พร้อมกับลองดมกลิ่นดูนิด ๆ ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากของตัวเองให้อยู่ที่ขอบแก้วและยกแก้วขึ้นบังคับให้น้ำสีทับทิมไหลเข้าสู่โพรงปากนุ่มอย่างช้า ๆ
“เวลาดื่มน่ะ ดื่มทีเดียวให้หมดเลยนะแจจุง”
ร่างสูงพูดแนะนำด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่ม หากแต่อีกฝ่ายนั้นกลับไม่ทันสังเกตแววตาที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ของร่างสูงเลยแม้แต่นิด น้ำสีทับทิมที่แฝงไว้ด้วยแอลกอฮอล์ค่อย ๆ ไหลลงสู่ลำคอขาวเรื่อย ๆ แจจุงจัดการดื่มไวน์ที่อยู่ในแก้วนั้นให้หมดในคราวเดียว ก่อนจะเลื่อนแก้วไวน์ใสลงตั้งบนโต๊ะตรงหน้า
“อร่อยมั้ยแจจุง?”
“อื้ม...อร่อยดีครับ”
ร่างบางตอบพลางยกยิ้มน่ารัก ริมฝีปากบางที่ชื้นเล็กน้อยหลังจากดื่มไวน์ไปนั้นดูเย้ายวนเล็ก ๆ ลิ้นเล็กแลบเลียริมฝีปากของตัวเองตามนิสัยส่วนตัว ยุนโฮมองอีกฝ่ายพลางยกยิ้มบางเบา หากแต่ในใจนั้นกลับเต้นระรัวด้วยความดีใจและความกระสันอยาก ราวกับตัวเองกำลังจะกลายเป็นปีศาจที่ต้องการจะทำให้คนตรงหน้านั้นต้องกรีดร้องเสียงหวานออกมาจากริมฝีปากบางสีชมพูนั่นด้วยน้ำมือของเขาเอง
...แต่ดูเหมือนว่าแจจุงผู้บริสุทธิ์นั้นจะไม่รู้เรื่องเลยแม้แต่นิด...
...ว่าความอร่อยของไวน์ที่ตนดื่มไปนั้น...
...ยิ่งมันอร่อยมากเท่าไหร่...ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ผสมอยู่มันก็มีมากเท่านั้น...
“งั้น...นายก็ดื่มอีกสิ”
ร่างสูงว่าพลางรินไวน์ลงในแก้วใสของอีกฝ่ายอีกครั้งหนึ่ง แจจุงพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนจะหยิบแก้วที่บรรจุน้ำสีทับทิมขึ้นมาดื่มอีกครั้ง ยุนโฮเอื้อมมือไปหยิบแก้วไวน์ของตนขึ้นมาดื่มบ้างเช่นกัน แต่เขากลับดื่มมันทีละนิด และใช้สายตาคมของตัวเองจดจ้องอยู่ที่เรือนร่างบางของอีกฝ่ายอย่างไม่ละสายตา
แจจุงดื่มไวน์ให้เหมือนกับคำแนะนำที่ร่างสูงแนะให้ก่อนหน้านี้ น้ำสีทับทิมที่ค่อย ๆ ไหลเข้าสู่โพรงปากนุ่มอย่างช้า ๆ แก้วไวน์ที่ยกสูงขึ้นทีละนิดเมื่อร่างบางยกแก้วเพื่อให้น้ำสีทับทิมนั้นไหลเข้าสู่โพรงปากนุ่มเรื่อย ๆ เผยให้เห็นช่วงลำคอขาวที่น่าสัมผัส ลูกกระเดือกที่ขยับขึ้นสูงยามที่ร่างบางกลืนน้ำเมาให้ไหลลงไปตามลำคอ ภาพตรงหน้านั้นทำให้ยุนโฮต้องยกไวน์ขึ้นจิบด้วยรอยยิ้มที่แฝงไว้ด้วยความเจ้าเล่ห์
...นั่นล่ะ...ดื่มอีก...ดื่มเข้าไปอีก...
...ดื่มให้หมดในคราวเดียวเลยนะ...แจจุง...
แก้วที่หนึ่ง...แก้วที่สอง...แก้วที่สาม...จำนวนแก้วที่ร่างสูงรินน้ำสีทับทิมราคาแพงให้ร่างบางดื่มนั้นดูจะมากขึ้นเรื่อย ๆ ระหว่างการดื่ม ยุนโฮก็ชวนแจจุงคุยเรื่องนู้นเรื่องนี้ด้วยท่าทีที่ดูเป็นธรรมชาติ แจจุงก็ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มที่แสนใสซื่อ ไม่ได้สังเกตเลยว่าอีกฝ่ายนั้นแทบจะไม่ได้ดื่มไวน์เลยแม้แต่นิด แถมพฤติกรรมแปลก ๆ ที่อีกฝ่ายกำลังกระทำอยู่นั้น ร่างบางก็ไม่ได้คิดจะเก็บเอามาสงสัยเลยสักอย่างเดียว
ยุนโฮเอนหลังให้ไปพิงกับพนักนุ่มของโซฟาตัวยาว ดวงตาคมจ้องมองอีกฝ่ายที่นั่งอยู่ตรงข้ามกันอย่างพินิจ ใบหน้าหวานใสที่ซับสีระเรื่อด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ภายในร่างกายที่มีมากขึ้นด้วยฝีมือของเขา ริมฝีปากบางที่ชื้นไปด้วยหยาดน้ำเผยอขึ้นเล็กน้อย ดวงตาเรียวสวยที่หรี่ลงอย่างหวานเชื่อมมองมาหาเขาด้วยสายตาปรือปรอย รวมกับเรือนผมสีดำขลับที่ล้อมกรอบใบหน้าหวานให้ดูลึกลับน่าค้นหา ทำให้ร่างบางในตอนนี้ดูเซ็กซี่เสียจนร่างสูงต้องยกยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้
...สวย...สวยราวกับภาพวาดที่ถูกสร้างสรรค์จากศิลปินชื่อดัง...
...น่าหลงใหล...จนอยากจะทำให้ริมฝีปากบางนั่นส่งเสียงร้องออกมาสักครั้ง...
...หึ ๆ...แผนการณ์ที่วางไว้ดูจะสำเร็จไปด้วยดีแฮะ...
“แจจุง ไหวรึเปล่า?”
เสียงทุ้มพูดอย่างเป็นห่วง ก่อนจะย้ายตัวเองไปนั่งที่โซฟาด้านเดียวกันกับร่างบาง มือหยาบกร้านแตะลงบนแก้มใสที่ซับสีระเรื่ออย่างเบามือ ทำให้แจจุงต้องหันมามองอีกฝ่าย ก่อนที่ริมฝีปากบางจะเอื้อนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
“ท่านประธาน...ผมง่วงจังเลยครับ...”
ดวงตากลมโตหวานเชื่อมช้อนตามองใบหน้าคมอย่างปรือปรอยแต่แอบแฝงไว้ด้วยความออดอ้อน ยุนโฮยกยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อเห็นสภาพของอีกฝ่ายในตอนนี้ เสียงทุ้มเอ่ยถามร่างบางอย่างอ่อนโยน และทันทีที่แจจุงพยักหน้าตอบรับอย่างไม่สงสัยในพฤติกรรมของเขาแม้แต่นิด ริมฝีปากหนาก็ไม่อาจจะกลั้นยิ้มเจ้าเล่ห์ไว้ได้อีกแล้ว...
“งั้นไปนอนกันมั้ย...ไปนอนที่คอนโดของฉันน่ะ”
+:+:+:+:+:+:+ Innocent Boy +:+:+:+:+:+:+
ยุนโฮจัดการวางชุดสูทของตัวเองพาดลงบนเก้าอี้ทำงานภายในห้องนอนของตน มือหยาบปลดเนคไทออกก่อนตามด้วยการปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสองสามเม็ดเป็นการคลายความอึดอัด ร่างสูงพ่นลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อนเพราะการทำงานที่ผ่านพ้นมาในวันนี้
ร่างสูงสมส่วนหันหลังกลับมามองเตียงนุ่มสีเข้มของตน ที่ตอนนี้มีร่างบอบบางกำลังนอนจับจองอยู่ด้วยสติอันเลือนรางเต็มที ขาเรียวเดินอย่างเชื่องช้าพาตัวเองไปนั่งลงข้างกันกับร่างที่นอนอยู่ เตียงนุ่มยุบลงเนื่องจากน้ำหนักของร่างสูง หากแต่แจจุงนั้นแทบจะไม่รู้สึกตัวแม้แต่นิดว่ากำลังมีใครกำลังเข้ามาใกล้ตน
แจจุงขยับตัวไปมา รู้สึกร้อนและมึนหัวจนควบคุมตัวเองไม่ค่อยจะได้ มือเรียวปลดเนคไทของตนออกพร้อมกับปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกเล็กน้อยเพื่อระบายความร้อน เสียงหวานครางในลำคอเนื่องจากรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวแปลก ๆ
ยุนโฮจ้องมองพฤติกรรมของอีกฝ่ายตาไม่กระพริบ ร่างสูงกลืนน้ำลายลงอย่างฝืดคอ ใบหน้าหวานที่ขึ้นสีจัดเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ได้รับไปเป็นจำนวนมาก ดวงตาสวยที่หรี่ลงหวานเยิ้ม ริมฝีปากบางที่เผยอขึ้นเชิญชวนให้ลองสัมผัสลิ้มรสชาติดูสักครั้ง ผิวขาวเนียนที่โผล่ออกมาให้เห็นเล็กน้อยจากการปลดกระดุมโดยเจ้าตัวเมื่อครู่ ภาพตรงหน้าบวกกับสถานการณ์ในตอนนี้ มันทำให้ความอดทนที่ยุนโฮเคยมีนั้นมันถูกทำลายลงอย่างไม่เหลือซาก
...อยากจะสัมผัสร่างตรงหน้าไปเสียทุกส่วน...
...อยากจะครอบครองร่างตรงหน้าให้เป็นของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น...
“อื้ม...”
แจจุงครางในลำคอออกมาอีกครั้ง เมื่อจมูกโด่งได้รูปของอีกคนกำลังซุกไซร้อยู่ที่ซอกคอขาวของตน ร่างบางพยายามจะหดคอหนีจากสัมผัสที่ให้ความรู้สึกประหลาดที่ไม่เคยได้รับมาก่อน มือบางที่ยกขึ้นอย่างอ่อนแรงนั้นหวังจะเลื่อนไปผลักให้อีกฝ่ายขยับออก แต่ผลกลับกลายเป็นว่าร่างสูงนั้นจับข้อมือบางล็อกไว้เหนือหัวด้วยมือเพียงข้างเดียวเท่านั้น
“ไม่ต้องกลัวหรอกแจจุง”
เสียงทุ้มแหบพร่าพูดใกล้กับหูเล็ก ฟันคมเลื่อนไปขบกัดติ่งหูนิ่มเบา ๆ อย่างหยอกล้อ ร่างบางสะดุ้งทุกครั้งที่ร่างสูงสัมผัสส่วนต่าง ๆ บนเรือนร่างขาว ปฏิกิริยาน่ารักน่าเอ็นดูนั้นมันทำให้ยุนโฮยกยิ้มขึ้นอย่างพึงพอใจ
ร่างสูงหยุดการกระทำของตนครู่หนึ่ง ย้ายตัวเองให้ไปนั่งพิงกับหัวเตียง อ้าขาออกกว้าง ก่อนจะอุ้มให้แจจุงนั้นย้ายมานั่งตรงกลางหว่างขาของตน วงแขนแกร่งเลื่อนไปโอบกอดเอวบางไว้แน่น บังคับให้แผ่นหลังของแจจุงนั้นเอนมาแนบกับอกแกร่งของตนอย่างเอาแต่ใจ
แจจุงที่ยังเหลือสติอยู่น้อยนิดได้แต่ปล่อยให้อีกฝ่ายนั้นกอดตนไว้แน่น รู้สึกตัวเองนั้นไม่เหลือเรี่ยวแรงที่จะปฏิเสธหรือจะถามอีกฝ่ายกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเลยแม้แต่นิด ยังไม่ทันที่จะได้รู้สึกตัว มือหยาบก็เลื่อนขึ้นมาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวบางของแจจุงออกอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากหนาพรมจูบและเลียบนซอกคอขาวเพื่อลิ้มรสชาติของเรือนร่างแสนหวาน พร้อมกับดูดสร้างรอยสีแดงแสดงถึงความเป็นเจ้าของทิ้งไว้อีกสองสามรอยไว้บนนั้น
“ฮะ...อ๊ะ...”
ร่างบอบบางสะดุ้งกับสัมผัสที่แปลกประหลาดที่ตนได้รับ เสื้อเชิ้ตสีขาวถูกถอดออกไปจากเรือนร่างบาง ก่อนจะตามด้วยนิ้วเรียวที่ตรงเข้าบดขยี้ปุ่มสีชมพูบนอกขาวอย่างรุนแรง มืออีกข้างก็ไม่อยู่นิ่ง ค่อย ๆ เลื่อนลงไปถอดเข็มขัดของร่างบางออกอย่างรวดเร็ว และเริ่มเลื่อนมาสัมผัสสัดส่วนโค้งเว้าของอีกฝ่ายอย่างหลงใหล
“ทะ...ท่านประธาน อ๊ะ...ท่านประธานจะทำอะไรผมครับ?...”
ใบหน้าหวานหันไปช้อนตาถามอีกฝ่าย โดยที่ไม่รู้เลยว่าดวงตาที่หวานเชื่อมกับริมฝีปากที่เผยอหอบนั้นมันเย้ายวนร่างสูงมากเพียงใด ใบหน้าหวานที่อยู่ห่างจากใบหน้าคมแค่เพียงคืบนั้นปลุกให้ความกระสันอยากในตัวของร่างสูงนั้นตื่นตัวมากยิ่งขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่
“รางวัลพิเศษสำหรับนายไงแจจุง”
ทันทีที่สิ้นเสียงทุ้ม ริมฝีปากหนาก็เลื่อนไปประกบกับริมฝีปากสีชมพูอย่างรวดเร็ว แจจุงเบิกตากว้างด้วยความตกใจ แต่ดวงตาคมที่เต็มไปด้วยประกายนั่นทำให้ร่างบางรู้สึกเขินอายจนต้องหลับตาแน่น เขาไม่เข้าใจความหมายที่อยู่ภายในแววตาคมนั่น และดูเหมือนยุนโฮจะรู้ตัวเสียด้วย ว่าคนในอ้อมกอดนั้นกำลังสับสน มันยิ่งทำให้เขาอยากจะครอบครองคน ๆ นี้ให้เร็วที่สุดตามที่เขาปรารถนามานาน
ลิ้นร้อนดุนดันที่ริมฝีปากบางเป็นการบอกให้อีกฝ่ายนั้นเปิดปาก แจจุงที่ไม่รู้สาก็ทำตามอย่างว่าง่าย แต่ทันทีที่ลิ้นร้อนเริ่มรุกล้ำเข้าสู่โพรงปากนุ่ม ลิ้นเล็กกลับพยายามหลบหนีลิ้นของอีกฝ่ายด้วยความหวาดกลัว ร่างบอบบางสั่นนิด ๆ มือบางกำผ้าปูที่นอนไว้แน่นเพื่อระบายความรู้สึกหลากหลายที่พากันปะทุขึ้นมาจนเขาแทบจะรับมันไว้ไม่ไหว
ลิ้นร้อนรุกล้ำเข้าไปหาความหวานภายในโพรงปากนุ่ม แต่ลิ้นเล็กกลับถอยหนีไม่ยอมเล่นกับเขาด้วยซะอย่างนั้น ร่างสูงจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปยังจุดอื่น ลิ้นร้อนลากพากเพดานปากสร้างความเสียวซ่านให้อีกฝ่ายอย่างหยอกเย้า สำรวจตามแนวฟันที่เรียงกันอย่างเป็นระเบียบ ความหอมหวานนั้นเชิญชวนให้ร่างสูงยิ่งกดจูบให้ลึกล้ำมากยิ่งขึ้น ดื่มด่ำไปกับรสชาติน่าหลงใหลที่ไม่เคยได้รับมาก่อน
“อื้ม...อื้อ...”
เสียงหวานครางในลำคอ ลิ้นร้อนกำลังรุกล้ำเข้ามาหาเขาหนักขึ้นเรื่อย ๆ ความเร่าร้อนที่ร่างสูงมอบให้มันเชิญชวนให้เขาลองที่จะตอบสนองสัมผัสนั้นกลับไปบ้าง แต่เพราะความที่ไม่เคยทำมาก่อน ลิ้นเล็กจึงตอบสนองกลับไปอย่างเงอะงะและแฝงไว้ด้วยความหวาดกลัวเล็ก ๆ
พฤติกรรมที่ใสซื่อบริสุทธิ์นั้นยิ่งปลุกให้อารมณ์ของยุนโฮนั้นพุ่งสูงขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กราวกับเป็นอาหารชั้นเลิศ ความหวานที่ได้รับในโพรงปากนุ่ม ริมฝีปากบางสีชมพูที่นุ่มนิ่มยามได้ใช้ริมฝีปากของตนสัมผัส สิ่งที่ทำให้ร่างสูงหลงใหลอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หากแต่ตอนนี้แจจุงเริ่มจะหายใจติดขัด มือบางยกขึ้นมาบีบหัวไหล่ของร่างสูงแน่น
“อึก...อื้ม...อ๊ะ ท่านประธาน...”
ยุนโฮยอมผละออกจากรสจูบที่แสนหวาน แจจุงที่ได้รับอิสระเผยอริมฝีปากขึ้นหอบหายใจอย่างรวดเร็ว แต่ก็ต้องเปลี่ยนเป็นหลุดเสียงครางออกมาอีกครั้ง เมื่อยอดอกสีหวานของเขาถูกร่างสูงจู่โจมอีกครั้ง ร่างสูงขยับตัว กดให้ร่างบางนอนลงกับเตียงราบอีกครั้ง ก่อนจะตามด้วยร่างของเขาที่ลุกขึ้นคร่อมอีกฝ่ายไว้ ริมฝีปากอิ่มเลื่อนลงพรมจูบตามเรือนร่างขาวเนียนพร้อมกับสร้างรอยรักไว้ทุกส่วนที่ริมฝีปากนั้นลากผ่าน มือหยาบเลื่อนไปกอบกุมแก่นกายของร่างด้านใต้เบา ๆ เพียงแค่นั้นก็ทำให้แจจุงนั้นสะดุ้งสุดตัวด้วยความตกใจ
“ทะ ท่านประธานจะทำอะไรน่ะ! ปล่อยนะ!”
“ไม่ต้องกลัวหรอกน่าแจจุง นี่เป็นรางวัลพิเศษสำหรับนาย นายนอนอยู่เฉย ๆ ก็พอแล้ว”
ใบหน้าคมเลื่อนไปอยู่ประชิดกับใบหน้าหวาน ระยะห่างเพียงแค่คืบทำให้ต่างฝ่ายต่างรับรู้ถึงลมหายใจร้อนซึ่งกันและกัน ริมฝีปากสีชมพูที่แปรเปลี่ยนกลายเป็นสีแดงสดหลังจากที่ผ่านการจูบที่เร่าร้อนนั้นดูเซ็กซี่เสียจนร่างสูงต้องก้มลงประกบจูบอีกครั้ง ร่างบอบบางสะดุ้งเล็กน้อย ดวงตาเรียวสวยหรี่ลงพร้อมกับคิ้วเรียวที่ขมวดเข้าหากันเล็กน้อย เพราะความรู้สึกเสียวซ่านและความหวาดกลัวที่ก่อตัวในใจอยู่เล็กน้อย
หากแต่ความเสียวซ่านที่แจจุงได้รับนั้นกลับไม่ใช่จากจูบที่เร่าร้อนที่ยุนโฮกำลังมอบให้เพียงอย่างเดียว มือหยาบที่กำลังกอบกุมแก่นกายร่างเบื้องใต้ผ่านเนื้อผ้าไว้นั้นเริ่มจับและขยำตรงส่วนนั้นไปมาอย่างมันส์มือ ขาเรียวพยายามจะหุบเข้าหากัน แต่ร่างสูงที่คร่อมอยู่นั้นขัดขวางไว้ไม่ให้มันเป็นเช่นนั้น
ความเสียวซ่านที่ได้รับนั้นผลักดันให้แจจุงต้องส่งเสียงแปลกประหลาดออกมา แม้จะกลั้นไว้เพียงใดก็ตาม เขารู้สึกว่าอยากจะร้องมันออกมาเพื่อระบายความรู้สึกที่มันอัดอั้นอยู่ภายใน ริมฝีปากของเขาที่กำลังถูกรุกล้ำ แก่นกายที่ถูกอีกคนกอบกุม ร่างกายท่อนบนที่เปลือยเปล่าก็ถูกยุนโฮลูบสัมผัสไปทั่ว ทำให้แจจุงต้องเบือนหน้าหนีจากจูบที่อีกฝ่ายกำลังมอบให้ ปลดปล่อยเสียงที่เขาไม่อาจจะปิดมันไว้ได้อีกแล้ว
“ฮ้า~...อ๊า...ท่านประธาน”
ยุนโฮยกยิ้มอย่างพึงใจเมื่อได้ยินเสียงครางหวานนั้นชัด ๆ แต่สิ่งที่แจจุงพูดออกมานั้นมันก็ยังไม่ถูกใจเขาสักเท่าไรนัก ร่างสูงจึงหยุดการกระทำทุกอย่าง ร่างบางที่หอบหายใจเหนื่อยอ่อนที่รู้ตัวว่าสัมผัสที่ตนได้รับนั้นขาดหายไป ทำให้แจจุงต้องช้อนตาที่ปรือปรอยขึ้นมองใบหน้าของอีกฝ่ายที่กำลังจ้องมองมาทางเขาด้วยสายตาที่ไม่อาจจะคาดเดาอะไรได้
“ยุนโฮ...เรียกฉันว่ายุนโฮ”
เสียงทุ้มพูดเน้นให้อีกฝ่ายได้ยินชัด ๆ แจจุงมองอีกฝ่ายด้วยความงุนงง เขาไม่เข้าใจ ว่าทำไมคนที่เป็นประธานถึงต้องการให้เขาเรียกชื่อจริงของอีกฝ่าย แต่น้ำเสียงทุ้มนุ่มที่หนักแน่นนั้นราวกับเป็นมนต์สะกด หรือเป็นเพราะเขาไม่ได้สงสัยอะไรกับสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการก็ไม่ทราบ ที่ทำให้แจจุงนั้นยอมที่จะทำตามสิ่งที่ยุนโฮบอกออกมาอย่างว่าง่าย
“ยะ...ยุนโฮ...อ๊ะ!!!”
ทันทีที่เสียงหวานพูดชื่อของอีกฝ่าย แต่เจ้าตัวนั้นกลับไม่รู้เลยว่าน้ำเสียงของตนนั้นมันเต็มไปด้วยความต้องการ มันทำให้เส้นขีดจำกัดของร่างสูงนั้นขาดสะบั้น มือหยาบจัดการถอดกางเกงของร่างเบื้องล่างอย่างรวดเร็ว พร้อมกับชั้นในตัวเล็ก แจจุงที่ไม่ทันจะได้ตั้งตัวอะไรก็รีบหุบขาของตนไว้อย่างรวดเร็ว ไม่อยากจะให้อีกฝ่ายได้เห็นร่างกายของตัวเองชัด ๆ อายเหลือเกินที่จะให้อีกฝ่ายได้เห็นเรือนร่างของตน
“มะ ไม่นะ! ยุนโฮ อย่ามองนะ...”
ถ้าเพียงแค่ร่างกายท่อนบนนั้นแจจุงยังไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก แต่การที่จะให้คนอื่นมาเห็นร่างกายทุกสัดส่วนนั้นเขาไม่กล้าเลยแม้แต่นิด ร่างบางพยายามนอนขดตัว ขาเรียวยกขึ้นเพื่อช่วยปกปิดเรือนร่างเช่นเดียวกันกับท่อนแขนที่ยกขึ้นบังแม้จะบังได้แค่เพียงนิดก็ตามที
ภาพตรงหน้ามันยิ่งทำให้ใจของยุนโฮนั้นสั่นระริกด้วยความกระสันอยาก ใบหน้าหวานที่ซับสีระเรื่อ ดวงตาเรียวสวยที่หน่วงคลอด้วยหยาดน้ำใส เรือนร่างขาวเนียนที่เจ้าตัวพยายามจะปกปิด แต่ยิ่งปกปิด มันก็ยิ่งทำให้เขายิ่งอยากเห็นให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
“แจจุงไม่ต้องกลัวนะ”
ยุนโฮจูบลงบนขมับของอีกฝ่ายอย่างหนักแน่น แต่ก็แฝงไว้ด้วยความอ่อนโยน แจจุงหันไปมองอีกฝ่ายด้วยความสงสัย เพราะความรู้สึกที่เขาได้รับนั้นมันชวนให้ก้อนเนื้อภายในใจมันเต้นระรัวแปลกไปอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ฉันแค่จะให้รางวัลพิเศษ แต่รางวัลนี้นายจำเป็นต้องให้ฉันเห็นร่างกายของนายน่ะ”
ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มที่แฝงไว้ด้วยความออดอ้อนและขอร้อง แจจุงก้มหน้างุด เขาไม่รู้ว่ารางวัลพิเศษที่เขากำลังจะได้รับนี้คืออะไร แต่น้ำเสียงที่ได้ยินนั้นมันก็ทำให้เขารู้สึกผิดเสียจนไม่รู้จะทำตัวยังไงดีแล้ว
...ท่านประธานอุตส่าห์มอบรางวัลพิเศษให้กับพนักงานธรรมดา ๆ คนนี้...
...แต่ฉันกลับต่อต้านและปฏิเสธ...มันถูกต้องแล้วหรอ?...
แจจุงไม่ได้พูดอะไรตอบกลับไป แต่สิ่งที่ร่างบางกำลังทำนั้นทำให้ปีศาจภายในตัวของยุนโฮนั้นยิ่งครอบครองจิตใจของร่างสูงให้เต็มไปด้วยความต้องการมากยิ่งขึ้น ร่างบางที่นอนขดตัวเปลี่ยนเป็นนอนหงาย ปล่อยตัวเองให้นอนอย่างสบาย เผยให้เห็นสัดส่วนของตัวเองอย่างชัดเจน เรือนร่างขาวเนียนน่าสัมผัส เอวบาง สะโพกมน เรียวขาที่ยาวสวย และส่วนอื่น ๆ นั้นมันดูน่าหลงใหลไปเสียหมด ริมฝีปากหนายกยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ ราวกับตัวเองกำลังจะกลายร่างเป็นปีศาจที่หมายจะกลืนกินร่างตรงหน้าให้หมด
...นายผิดเองนะ...ที่ใสซื่อบริสุทธิ์จนเกินไป...
...แค่พูดหว่านล้อมนิดหน่อย...ก็ตกหลุมพรางเอาง่าย ๆ ซะแล้ว...
...บริสุทธิ์จริง ๆ...บริสุทธิ์จนฉันอยากจะทำลายความบริสุทธิ์นี่ซะเดี๋ยวนี้...
ยุนโฮก้มลงมองแก่นกายของร่างเบื้องล่างที่ตอนนี้กำลังชูชันตื่นตัวด้วยแรงอารมณ์ที่ถูกเขาปลุกปั้นขึ้นมา ใบหน้าหวานก้มงุด เบือนหน้าหนีไปอีกทางด้วยความเขินอาย ดวงตาสวยปิดแน่นไม่กล้าสบตากับอีกฝ่าย พฤติกรรมแสนน่ารักนั้นทำให้ยุนโฮยกยิ้มกริ่ม
“นายนี่น่ารักจังเลยนะ”
มือหยาบตรงเข้ากอบกุมแก่นกายของร่างบางไว้ด้วยแรงที่พอเหมาะ ก่อนจะค่อย ๆ ขยับขึ้นลงช้า ๆ ร่างบอบบางสะดุ้ง เปลือกตาบางปรือขึ้นมองสิ่งที่ตัวเองกำลังโดนกระทำอย่างพร่ามัว ร่างสูงใช้นิ้วโป้งกดรูดตั้งแต่ส่วนปลายลงไปยังส่วนโคน เสียงครางหวานที่ถูกปล่อยออกมาอย่างแผ่วเบานั้นมันช่างไพเราะสำหรับร่างสูงเป็นอย่างมาก
“อื้ม...อ๊า...”
ร่างสูงขยับมือให้เร็วยิ่งขึ้น มืออีกข้างเลื่อนไปบีบนวดสะโพกมนกลมกลึงอย่างมันส์มือ แจจุงบิดตัวไปมาด้วยความเสียวซ่านที่ถูกร่างสูงปรนเปรอ หยาดน้ำใสเริ่มไหลออกมาจากยอดแก่นกาย ใบหน้าหวานที่ซับสีระเรื่อเริ่มมีเม็ดเหงื่อไหลลงมาเล็กน้อย เสริมให้แจจุงนั้นดูเซ็กซี่มากขึ้นอีกเท่าตัว
เมื่อร่างสูงเห็นว่าเริ่มมีหยาดน้ำใสไหลปริ่มมาจากส่วนปลาย ยุนโฮก็ใช้โพรงปากของตนนั้นเข้าครอบครองแก่นกายบริสุทธิ์ แจจุงกรีดร้องทันทีที่ส่วนนั้นรับรู้ถึงความอุ่นร้อนภายในโพรงปากของอีกฝ่าย ความรู้สึกประหลาดที่ก่อตัวขึ้นนั้นทำให้เขาทรมานเหลือเกิน
ลิ้นร้อนดุนดันที่ส่วนปลายเพื่อลิ้มรสหยาดน้ำใสที่แสนหวานนั้นอย่างพึงพอใจ พลางขยับหัวขึ้นลงรับแก่นกายที่แสนหวานนั้นเข้าไปในโพรงปากราวกับมันเป็นไอศกรีมแท่งแสนอร่อย ความเสียวซ่านที่กำลังแล่นปรี่ไปทุกส่วนของร่างบางทำให้แจจุงนั้นเผลอหนีบขาเข้าหากันอย่างสุดจะทน แต่ร่างสูงก็ใช้มือข้างหนึ่งดันขาเรียวออกไป ทำให้แจจุงนั้นต้องดิ้นพล่านด้วยความทรมาน
“ฮ้า...อ๊า...อ๊ะ...ยุนโฮ พอได้แล้ว อ๊า...”
นิ้วเรียวจิกลงกับผ้าปูที่นอนเพื่อระบายความอึดอัด รู้สึกปวดหนึบตรงส่วนปลายแต่ไม่สามารถระบายมันออกมาได้ ร่างบางหอบหายใจติดขัด ยิ่งแก่นกายได้รับรู้ถึงความอุ่นร้อนในโพรงปากของร่างสูง มันยิ่งทำให้เขาทรมานมากขึ้นเรื่อย ๆ และตอนนี้มันยิ่งทรมานมากกว่าเดิมหลายเท่า เมื่อร่างสูงนั้นเริ่มเพิ่มความเร็วในการรุกขึ้นเรื่อย ๆ เรียกให้เสียงครางหวานต้องดังก้องออกมาจากริมฝีปากสีแดงสดอย่างปิดไม่ได้
“ไม่นะ...อ๊ะ...ยุนโฮ...ยุน...อ๊า!!!”
สะโพกมนแอ่นขึ้นด้วยความเสียวซ่านที่ไม่อาจจะเก็บไว้ได้อีกแล้ว น้ำรักสีขาวถูกฉีดเข้าสู่โพรงปากร้อน ยุนโฮกลืนกินทุกหยาดหยดนั้นอย่างไม่นึกรังเกียจ รสชาติเฝื่อน ๆ นั้นมันกลับหอมหวานมากในความรู้สึกของเขา ร่างสูงดูดน้ำรักที่ยังหลงเหลือตรงส่วนปลายเล็กน้อย ก่อนจะผละริมฝีปากออกจากแก่นกายหวาน
ร่างบอบบางหอบหายใจติดขัด ใบหน้าหวานขึ้นสีจัด ริมฝีปากสีแดงสดเผยอหอบเอาอากาศเข้าไปให้มากที่สุด แจจุงหอบหายใจถี่ เขาไม่เคยเหนื่อยขนาดนี้มาก่อน ไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่นัก ว่าสิ่งที่ตนกำลังถูกร่างสูงกระทำอยู่นี้เค้าเรียกว่าอะไร แต่เขาก็ยินยอมที่จะให้ร่างสูงกระทำ เพราะสิ่งนี้คือ ‘รางวัลพิเศษ’ ที่ยุนโฮกำลังมอบมาให้
“หืม...เหนื่อยมากเลยหรอแจจุง? ดูท่าจะไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อนสินะ”
ทันทีที่ดวงตาคมมองพฤติกรรมของอีกฝ่ายนั้นก็ทำให้เขาแน่ใจว่าอีกฝ่ายนั้นบริสุทธิ์มากเพียงใด ทุก ๆ พฤติกรรมที่แสนไร้เดียงสานั้นมันทำให้เขายิ่งอยากจะครอบครองร่างตรงหน้ามากขึ้นทุกที ๆ ใบหน้าหวานที่ขึ้นสีจัด บวกกับเรือนผมซอยสั้นสีดำสนิทที่ล้อมกรอบใบหน้านั้นไว้ ทำให้เรือนร่างเบื้องล่างนั้นดูเซ็กซี่และลึกลับน่าค้นหาอย่างน่าประหลาด
ยังไม่ทันที่แจจุงจะได้นอนพักเหนื่อย ร่างบอบบางก็ถูกจับให้ลุกขึ้นนั่ง ยุนโฮคุกเข่าตรงหน้าอีกฝ่าย ดวงตาสวยปรือขึ้นมองภาพตรงหน้า แต่สิ่งที่เห็นนั้นมันทำให้เขาต้องเบือนหน้าหนี ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทั้ง ๆ ที่เขากับยุนโฮนั้นก็มีอะไรที่เหมือน ๆ กัน แต่พอเห็นสิ่งนั้นของอีกฝ่ายแล้วมันทำให้เขารู้สึกอายเป็นอย่างมาก
“ถึงตานายบ้างแล้วนะแจจุง”
เสียงทุ้มพูดอย่างแหบพร่า มือหยาบประคองแก่นกายของตัวเองให้เข้าไปใกล้กับใบหน้าหวานมากขึ้น ท่าทางเขินอายที่แสนน่ารักนั่นทำให้ยุนโฮต้องแลบลิ้นเลียริมฝีปากที่แห้งผากอย่างหื่นกระหาย เพียงแค่นึกเหตุการณ์ที่แจจุงกำลังจะทำต่อไปหลังจากนี้ตามการชักนำของตนมันก็ทำให้ความต้องการนั้นพุ่งสูงอย่างห้ามไม่อยู่
“ผะ...ผม...ผมทำไม่เป็น”
เสียงหวานพูดออกมาอย่างแผ่วเบา ดวงตาสวยเสหลบไปทางอื่น ไม่กล้ามองแก่นกายของอีกฝ่ายที่กำลังขยายขึ้นเพราะความต้องการ แต่ร่างสูงกลับเลื่อนมือมาจับบังคับให้ใบหน้าหวานมาอยู่ใกล้กับแก่นกายขนาดใหญ่ มันยิ่งทำให้แจจุงนั้นประหม่าจนไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรต่อไปดี
“เลียมันสิแจจุง”
ยุนโฮพูดแนะนำสั้น ๆ ดวงตากลมช้อนตาขึ้นสบตาดวงตาคมด้วยความรู้สึกสับสน แต่ทันทีที่ร่างบางสบตากับร่างสูง ดวงตาคมนั้นราวกับเป็นสิ่งที่สะกดให้สติที่เหลืออยู่เลือนรางของเขานั้นเคลิ้มตามไปอย่างง่ายดาย แจจุงจ้องแก่นกายใหญ่ตรงหน้านิ่ง และปล่อยให้ความรู้สึกของตัวเองบังคับสั่งให้ร่างกายทำตามในสิ่งที่ร่างสูงต้องการ
ลิ้นเล็กแลบเลียไปที่แก่นกายของยุนโฮอย่างประหม่า ภาพตรงหน้ามันกระตุ้นให้ความต้องการของร่างสูงเพิ่มขึ้นเป็นอย่างดี ลิ้นเล็กค่อย ๆ ลากผ่านไปตามความยาวของแท่งเนื้อขนาดใหญ่ รับรสชาติประหลาดแต่ทำให้เขารู้สึกหลงใหลเข้าไปทีละนิด
“อื้ม...แจจุง อ้าปากหน่อยสิ”
เสียงทุ่มครางต่ำกับความนุ่มที่กำลังไล้เลียอยู่ตรงแก่นกายก่อนจะออกคำสั่งอีกครั้ง ทันทีที่ริมฝีปากเล็กอ้าออก ยุนโฮก็จัดการสอดแก่นกายเข้าไปในโพรงปากนุ่มอย่างรวดเร็ว ความอุ่นร้อนภายในนั่นทำให้ร่างสูงต้องหลุดเสียงครางออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
แจจุงที่อ้าปากรับแท่งเนื้ออึดอัดจนหายใจแทบไม่ออก มันอึดอัดคับแน่นไปทั้งโพรงปาก ความยาวที่ยาวเข้ามาจนถึงลำคอนั่นแทบจะทำให้ร่างบางสำลัก กลุ่มผมนุ่มถูกมือหยาบจับไว้เบา ๆ ก่อนที่ร่างสูงจะบังคับศีรษะกลมของคนตรงหน้าให้ขยับเข้าออกรับแก่นกายของตนเข้าไป ราวกับตนกำลังสอดใส่ส่วนนั้นเข้าไปในช่องทางร้อนของร่างบาง
“อ๊า...อื้ม...”
เสียงทุ้มครางออกมาอย่างพึงพอใจในสัมผัสที่ตนได้รับ ความอุ่นร้อนของโพรงปากนุ่มนั่นยิ่งทำให้เขาอยากจะบังคับให้อีกฝ่ายขยับรับแก่นกายของเขาให้เร็วขึ้นกว่าเดิม ดวงตาสวยปิดแน่น ไม่เข้าใจว่าสิ่งที่ตนกำลังกระทำอยู่มันคืออะไร แต่ก็ยอมให้ร่างสูงนั้นขยับแก่นกายเข้าออกภายในโพรงปากนุ่มของตนตามที่ปรารถนา แต่เพราะความไม่เคย ทำให้ฟันซี่เล็กครูดไปกับแก่นกายแข็งขืนบ้าง แต่สิ่งนั้นกลับเป็นการสร้างความเสียวซ่านให้กับร่างสูงมากยิ่งขึ้นไปเสียอีก
ความต้องการที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นั้นฉุดอารมณ์ของร่างสูงให้สูงยิ่งขึ้น มือหยาบจัดการบังคับให้แจจุงขยับศีรษะเข้าออก พร้อมกับที่ตนนั้นกระแทกแก่นกายสวนเข้าไป หยาดน้ำตาคลอหน่วงดวงตาสวยอย่างห้ามไม่ได้ ร่างบางรู้สึกอึดอัดและทรมานกับความคับแน่นนี่เหลือเกิน แต่อีกใจหนึ่งกลับพอใจกับรสชาติของสิ่งที่อยู่ภายในโพรงปากเสียอย่างนั้น ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี่คืออะไรกันแน่
“อะ...อึก...แจจุง...แจจุง”
ยุนโฮครางเสียงสั่น รู้สึกว่าตัวเองใกล้จะถึงจุดเต็มที จังหวะที่เริ่มเร็วขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อจะพาให้ตัวเองไปยังสวรรค์นั่นทำให้แจจุงแทบจะทรงตัวไม่อยู่ รับรู้ได้เลยว่าแก่นกายภายในโพรงปากของตัวเองนั้นขยายตัวขึ้นมากขนาดไหน ลิ้นเล็กที่แลบเลียแก่นกายไปมาบางครั้งอย่างประหม่ามันยิ่งสร้างความอยากกับร่างสูงให้มากขึ้นเรื่อย ๆ
“อา...อื้ม...อ๊า~...”
และทันทีที่ร่างสูงถึงจุดสุดยอด มือหยาบจัดการกดศีรษะกลมให้รับแก่นกายของเขาเสียจนมิดด้าม น้ำอุ่นร้อนรสเฝื่อนถูกฉีดเข้าสู่ลำคอร่างบาง ความอ่อนนุ่มและร้อนนิด ๆ ภายในโพรงปากนุ่มนั่นแทบจะทำให้ร่างสูงละลาย ลิ้นร้อนที่สัมผัสถูกแก่นกายของเขาในบางครั้งนั้นสร้างความรู้สึกอันแสนวิเศษให้เขาได้ดีเป็นอย่างมาก
“อื้ม...แค่ก ๆ”
เมื่อแก่นกายใหญ่ถูกถอนออกจากโพรงปากนุ่ม แจจุงก็ไอเพราะสำลักน้ำรักที่ฉีดเข้ามาในทันที รสชาติเฝื่อนคอที่ไม่เคยได้รับนั่นทำให้เขาแทบจะคายออกมาอย่างรวดเร็ว ใบหน้าหวานแดงซ่านปรือตาขึ้นอย่างช้า ๆ น้ำรักสีน้ำนมไหลจากมุมปากลงมาจนถึงคางมน ยุนโฮใช้นิ้วเรียวปาดน้ำรักของตัวเองตรงมุมปากของร่างบาง ก่อนจะกดให้แจจุงนอนราบลงกับเตียงนุ่มอีกครั้ง
“เสียของจังเลยแหะ แต่เอาเถอะ แบบนี้จะได้มีตัวช่วยหล่อลื่นซะหน่อย”
ร่างสูงพูดพร้อมยกยิ้มมุมปาก ดวงตากลมโตใสซื่อที่มองมาหาเขาด้วยความสงสัยนั่นช่างดูน่ารักน่าเอ็นดูเสียเหลือเกิน ความบริสุทธิ์ของคนตรงหน้าช่างหอมหวานเสียจนเขาอยากจะกลืนกินมันซะให้หมด ขาเรียวสวยถูกร่างสูงดันให้อ้าออกกว้าง เผยให้เห็นแก่นกายและช่องทางรักสีชมพูที่ไม่เคยมีใครได้แตะต้อง
“ยุนโฮ...จะทำอะไรผมน่ะ?”
แจจุงหน้าซับสีเลือดเมื่อส่วนนั้นของตัวเองถูกเผยให้เห็นต่อสายตาของอีกฝ่าย ร่างสูงไม่ได้ตอบอะไร แต่กลับลงมือทำในสิ่งที่ตัวเองกำลังคิดอยู่ต่อไปเรื่อย ๆ ร่างบอบางสะดุ้งสุดตัวเมื่อรับรู้ได้ว่ามีสิ่งแปลกปลอมกำลังรุกรานเข้ามาภายในร่างกายของเขา นิ้วเรียวที่กำลังสอดเข้ามาในช่องทางด้านหลังอย่างช้า ๆ นั่นทำให้แจจุงต้องกรีดร้องออกมาอย่างห้ามไม่ได้
“อ๊า!!!! เจ็บ!! ยะ ยุนโฮ...เอาออกไปนะ!”
หยาดน้ำใสหน่วงคลอที่ดวงตาสวย ร่างบอบบางดิ้นพล่าน มือเรียวจิกลงกับผ้าปูที่นอนเพื่อระบายความเจ็บปวด หากแต่สิ่งที่ร้องขอไปกลับไม่ได้เป็นไปตามที่หวัง นิ้วเรียวยาวเคลื่อนเข้ามาลึกขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนจะขยับเข้าออกอย่างช้า ๆ เสียดสีกับผนังร้อนนุ่มที่ตอดรัดแน่น สัมผัสที่ได้รับนั่นมันแทบจะทำให้ยุนโฮแทบจะทนไม่ไหว แต่ก็พยายามข่มใจที่จะทำไปอย่างช้า ๆ เพื่อที่จะได้รับความหอมหวานที่ปรารถนามานานได้อย่างเต็มที่
...แค่ใช้นิ้วยังตอดรัดขนาดนี้...
...ถ้าเป็นอย่างอื่น...มันจะตอดรัดได้ขนาดไหนกันนะ...
“อย่าเกร็งสิแจจุง ถ้าเกร็งมากนายจะเจ็บนะ”
เสียงทุ้มพูดออกมาอย่างอ่อนโยน พร้อมกับเลื่อนริมฝีปากหนาไปประทับที่ริมฝีปากบางมอบจุมพิตที่แสนเร่าร้อน มือหยาบอีกข้างเลื่อนไปกอบกุมแก่นกายบริสุทธิ์และขยับช้า ๆ ร่างบอบบางกระตุกเกร็ง ตอนนี้ทั้งความเจ็บและความเสียวซ่านต่างปะทุขึ้นมาตีกันจนเขาทรมานอย่างที่สุด ด้านหน้าที่ถูกร่างสูงปรนเปรอ ด้านหลังก็ถูกนิ้วเรียวสอดใส่เข้ามาภายในร่างของเขา ไหนยังจะจูบที่แทบจะทำให้เขาละลายนี่อีกล่ะ ตอนนี้บอกไม่ถูกจริง ๆ ว่าตอนนี้ตัวเองนั้นกำลังทรมานหรือมีความสุขอยู่กันแน่
“อึก...อื้ม...อ๊ะ!!”
แจจุงผละจูบปล่อยเสียงร้องออกมาอย่างตกใจ ร่างบอบบางเกร็งไปทั้งตัว ช่องทางด้านหลังตอดรัดวูบ เมื่อนิ้วเรียวยาวของยุนโฮนั้นสะกิดไปโดนจุดหนึ่งเข้า แจจุงจิกนิ้วลงกับผ้าปูที่นอนแน่น สงสัยเหลือเกินว่าความรู้สึกเสียวซ่านที่จี๊ดขึ้นมานั้นมันคืออะไรกันแน่
พฤติกรรมของร่างบางนั้นทำให้ร่างสูงต้องยกยิ้มกริ่ม ตอนนี้เขารู้แล้วว่าจุดที่จะทำให้ร่างบางนั้นต้องกรีดร้องออกมาอย่างสุขสมนั้นอยู่ตรงไหน ร่างสูงจัดการเพิ่มนิ้วจากนิ้วเดียวกลายเป็นสามในทันที ความคับแน่นที่เพิ่มขึ้นนั้นทำให้แจจุงต้องดิ้นพล่าน
“อ๊า...ยุนโฮ...ผมอึดอัด”
ริมฝีปากสีแดงสดเม้มแน่นจนเป็นเส้นตรง ตอนนี้ยุนโฮยังคงช่วยเขาผ่อนคลายอยู่เหมือนเดิม หากแต่นิ้วเรียวที่เพิ่มขึ้นนั้นกำลังเคลื่อนเข้ามาลึกขึ้น และดวงตาสวยก็ต้องเบิกกว้าง เสียงกรีดร้องที่แสนหวานหูร้องออกมาเสียงดังอย่างไม่อาย ยุนโฮจัดการกระแทกนิ้วเข้าไปให้โดนจุดกระสันนั้นอย่างแรงก่อนจะใช้นิ้วกดคลึงที่จุดนั้นครู่หนึ่งอย่างนึกสนุก
“อ๊า!!!...อ๊ะ...อย่า...อ๊า!!!!”
ใบหน้าหวานเชิดขึ้น ดวงตาสวยเบิกกว้าง ร่างบอบบางเกร็งแน่น ก่อนที่ความเสียวซ่านที่ช่องทางด้านหลังจะผลักดันให้ร่างบางปลดปล่อยน้ำรักออกมาอีกครั้ง แต่ร่างสูงนั้นก็ยังไม่ยอมหยุดใช้นิ้วคลึงที่จุดนั้น ยิ่งทำให้ร่างบางต้องกระตุกไปทั้งตัวเพราะความเสียวซ่านที่มีมากจนแทบจะรับไว้ไม่ไหว
เสียงกรีดร้องเพราะความทรมานและความสุขปะปนกันไปนั้นช่างหวานหูสำหรับยุนโฮเป็นอย่างมาก ยิ่งได้ยินก็ยิ่งอยากจะให้ร่างด้านใต้นี้ร้องออกมาให้มากกว่าเดิม ให้ร่างด้านใต้นี้เรียกร้องแต่ชื่อของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น...
ตอนนี้แจจุงนั้นดูเซ็กซี่มากกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัวเลยทีเดียว ใบหน้าหวานที่แดงซ่านเพราะเพิ่งจะปลดปล่อยความทรมานไปเมื่อครู่ เรือนผมสีดำสนิทที่คลอแก้มใสอยู่บางส่วน หยดเหงื่อที่ไหลจากขมับลงมาตามรูปหน้า ดวงตาสวยที่หรี่ลง ริมฝีปากสีแดงสดที่เผยอขึ้นหอบหายใจกับอกบางที่ขยับขึ้นลงอย่างเหนื่อยอ่อน ภาพตรงหน้านั้นทำให้ความอดทนของยุนโฮขาดสะบั้น
มือหยาบจัดการดันขาเรียวให้อ้าออกกว้าง แก่นกายใหญ่ถูกยกขึ้นจ่อที่ช่องทางสีหวาน ใช้ส่วนปลายดุนดันตรงช่องทางนั้นไปมาเพื่อเป็นการกระตุ้น สัมผัสชื้นแฉะนั้นทำให้แจจุงต้องครางอือ เขาไม่รู้ว่าสิ่งต่อไปที่ยุนโฮกำลังจะทำต่อคืออะไร ดวงตากลมจดจ้องใบหน้าคมที่กำลังจดจ้องช่องทางของเขานิ่ง ก่อนที่เสียงหวานจะต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดอีกครั้ง
“อ๊า!!!!!!!”
นิ้วเรียวจิกลงกับที่นอนแน่น หยาดน้ำใสไหลรินออกจากดวงตาสวยเพราะความเจ็บปวด ร่างบางส่งเสียงร้องพร้อมกับพยายามใช้แขนของตนที่มีแรงเหลืออยู่น้อยนิดดันอกของร่างสูงไว้ไม่ให้ขยับเข้ามาใกล้ ช่องทางที่ไม่เคยมีใครรุกล้ำเข้ามาก่อนแทบจะฉีกขาดกับขนาดแท่งเนื้ออันใหญ่โตที่กำลังที่กำลังขยับลึกเข้ามา
ยุนโฮซี้ดปากอย่างเสียวซ่านกับความคับแน่นที่น่าพึงพอใจของร่างบาง ช่องทางบริสุทธิ์ที่ตอดรัดส่วนนั้นของเขาไว้แน่นนั้นแทบจะทำให้เขาถึงจุดโดยที่ยังไม่ได้ขยับเลยด้วยซ้ำ
และแล้วยุนโฮก็สอดใส่แก่นกายเข้าไปในช่องทางนั้นได้จนมิดด้าม ร่างสูงถอนหายใจเฮือกเมื่อความคับแน่นนั้นมันตอดรัดแก่นกายเขาไว้ทั้งหมด แจจุงร้องไห้เพราะความเจ็บทางด้านหลัง พยายามจะผลักให้อีกคนนั้นขยับออกไป แต่สภาพร่างกายของตัวเองนั้นกลับไม่สามารถจะทำได้อย่างใจคิด
“ฮึก...ยุนโฮ...เจ็บ...ผมเจ็บ...เอาออกไป”
“อื้ม...แจจุง เดี๋ยวก็ไม่เจ็บแล้วล่ะ”
ไม่ปล่อยให้แจจุงได้ปรับตัวนานนัก ยุนโฮขยับแก่นกายออกจนส่วนหัวเกือบหลุดออกมาจากช่องทางแล้วนิ่งค้างไว้ครู่หนึ่ง ก่อนจะกระแทกสวนกลับเข้าไปอย่างแรง ทำให้แจจุงนั้นสะดุ้งสุดตัว
“อ๊ะ...อ๊า...”
ร่างสูงขยับแก่นกายเข้าออกช้า ๆ แต่หนักหน่วง ทุกครั้งที่แก่นกายสอดลึกเข้าไปจนสุด ร่างบอบบางจะสะดุ้งพร้อมกับช่องทางที่ตอดรัดแน่น ยุนโฮจ้องมองช่องทางสีหวานที่กำลังขยายตัวเพื่อที่จะรับแก่นกายเขาให้ได้มากขึ้นอย่างหื่นกระหาย ลิ้นร้อนแลบเลียริมฝีปากที่แห้งผาก ก่อนที่จะโถมตัวกระแทกแก่นกายเข้าไปในช่องทางร้อนของร่างบางไม่ยั้ง
“อ๊า!!...อ๊ะ ๆ...อึก...”
เสียงหวานกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด หากแต่ภายในน้ำเสียงนั้นกลับแฝงไว้ด้วยความสุขที่ไม่เคยได้รับมาก่อน มือเรียวที่จิกผ้าปูที่นอนไว้แน่น ถูกร่างสูงจัดการจับให้ยกขึ้นโอบรอบคอไว้แทน มือหยาบเลื่อนไปบีบคลึงปุ่มสีหวานบนแผ่นอกสีน้ำนมเล่น อีกข้างก็เลื่อนไปลูบไล้ตามสัดส่วนโค้งเว้าอย่างมันส์มือ
ร่างสูงที่โน้มตัวลงมาเล็กน้อย ทำให้หน้าท้องแกร่งนั้นครูดไปกับแก่นกายบริสุทธิ์ของร่างบาง แจจุงร้องครางเสียงหวานกับสัมผัสที่ได้รับทั้งทางด้านหน้าและด้านหลัง นิ้วเท้าเรียวจิกลงกับที่นอนเพื่อระบายความเสียวซ่านที่กำลังถาโถมเข้าใส่จนเขารับมันไว้ไม่ไหว
ร่างสูงกระแทกแก่นกายไปที่จุดกระสันของร่างบางอย่างแรงครั้งแล้วครั้งเล่า ความคับแน่น ความหอมหวาน และสิ่งที่น่าหลงใหลของเรือนร่างนี้ทำให้เขานั้นไม่อาจจะลดความอยากลงได้เลย ยิ่งสอดใส่เข้าไปลึกมากเท่าไหร่ ช่องทางด้านหลังก็จะยิ่งมอบความสุขอันแสนวิเศษให้กับเขาได้มากเท่านั้น
“อา...แจจุง...อ้าขาออกอีกสิ...อ้าขากว้าง ๆ...อื้ม...”
เสียงทุ้มที่ราวกับเป็นมนต์สะกดนั้นทำให้แจจุงต้องเผลออ้าขาออกกว้าง ทั้ง ๆ ที่อยากจะหนีบขาเข้าหากันเพราะความเสียวซ่านที่มีมากเกินกว่าจะรับไหว ยิ่งร่างสูงเห็นร่างบางยอมทำตามคำสั่งของตน ความอยากครอบครองเรือนร่างขาวเนียนนี้ก็ยิ่งมีมากยิ่งขึ้น มือหยาบทั้งสองข้างเลื่อนมาบีบสะโพกมนอย่างมันมือ ฟันคมขบกัดปุ่มสีชมพูเพื่อลิ้มรสความหอมหวานที่ยังหลงเหลืออยู่ ก่อนที่แก่นกายแกร่งจะกระแทกเข้าใส่แรงและเร็วขึ้นอีกตามความต้องการที่ปะทุขึ้นสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ
“อ๊ะ...อ๊า...ยุนโฮ...ยุน...”
เสียงหวานครางเรียกชื่อของผู้กระทำออกมายามที่แก่นกายนั้นกระแทกเข้ามาลึก เสียงนั้นช่างไพเราะหวานหูสำหรับยุนโฮเป็นที่สุด ยุนโฮกระแทกแก่นกายเข้าไปให้เร็วยิ่งขึ้น ทำให้เกิดเสียงเนื้อกระทบกันกับเสียงชื้นแฉะที่ดังเล็ดลอดออกมาบ้าง
แก่นกายบริสุทธิ์สั่นระริก ส่วนปลายมีหยาดน้ำใสไหลปริ่มออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่หน้าท้องแกร่งครูดกับส่วนนั้นมันทำให้แจจุงสะดุ้ง นิ้วเรียวจิกลงกับแผ่นหลังกว้างเพื่อระบายความเสียวซ่าน เสียงหวานครางดังขึ้นเมื่อยุนโฮนั้นขยับให้แก่นกายใหญ่ขยับเร็วและแรงขึ้นตามความต้องการ
ช่องทางด้านหลังที่เริ่มตอดรัดแน่นและถี่มากขึ้นเรื่อย ๆ นั้นทำให้ยุนโฮต้องขบกรามแน่น ความเสียวซ่านและความหอมหวานที่เขาไม่เคยได้รับมามากขนาดนี้มันทำให้เขาลุ่มหลงในคนตรงหน้ามากกว่าเดิมหลายเท่า สัญญาณที่กำลังบ่งบอกว่าอีกคนนั้นใกล้จะปลดปล่อยนั้นมันทำให้ยุนโฮเลื่อนมือมากอบกุมแก่นกายบริสุทธิ์ไว้อีกครั้ง
“แจจุง...ทนอีกนิดนึงนะ”
มือหยาบขยับขึ้นลง พร้อมกับกระแทกแก่นกายให้แรงขึ้น จังหวะที่เปลี่ยนไปโดยที่ไม่มีการบอกกล่าวนั้นทำให้แจจุงแทบจะตั้งตัวไม่ทัน ร่างบางสะดุ้งและเผลอใช้นิ้วเรียวจิกแผ่นหลังกว้างอย่างห้ามไม่ได้
ร่างบางร้องครางออกมาดังและถี่ขึ้นเรื่อย ๆ แก่นกายขนาดใหญ่ที่สอดลึกเข้ามานั้นมันทำให้เขารู้สึกดีจนไม่อาจจะบรรยาย ยามที่แก่นกายขยับออก เขาแทบจะไม่อยากให้มันออกไปจากร่างกายของเขาเลยแม้แต่นิด อยากจะให้ส่วนนั้นเข้ามาหาเขาอีก เข้ามาให้ลึกที่สุด ทำให้เขานั้นรู้สึกดีให้มากขึ้นไปอีก
ตอนนี้ร่างสูงก็มีอาการที่ไม่ต่างจากร่างบางนัก ปลายแก่นกายที่เริ่มปวดหนึบนั้นเป็นการบ่งบอกว่าเขาใกล้จะถึงจุดในไม่ช้านี้ ร่างสูงจ้องมองใบหน้าหวานที่ขึ้นสีจัด ริมฝีปากสีแดงสดที่เผยอขึ้นหอบนั้นทำให้เขาต้องก้มลงไปมอบจุมพิตแสนเร่าร้อนให้อีกครั้ง มือที่กอบกุมแก่นกายเลื่อนไปจับสะโพกมนไว้ ก่อนที่เขาจะกระแทกแก่นกายให้เร็วและลึกที่สุดเพื่อที่จะปลดปล่อยความทรมานนี้ให้หมดเสียที
“อื้ม!!!...อึก...อ๊า~...ฮ้า...”
ร่างบางสะดุ้งสุดตัวเมื่อแก่นกายนั้นกระแทกเข้ามาลึกเสียจนจุก ใบหน้าหวานเชิดขึ้น ดวงตาสวยเบิกกว้าง ริมฝีปากสีแดงสดส่งเสียงร้องหวานหูออกมาเสียงดัง ร่างบางสั่นไหวไปตามแรงกระแทกที่ร่างสูงส่งมา จนร่างสูงต้องจับสะโพกมนยึดไว้ไม่ให้ร่างบางไถลไปไหน
ช่องทางร้อนตอดรัดถี่ เช่นเดียวกันกับแก่นกายที่กำลังกระแทกเข้ามาในช่องทางร้อนนั้นถี่มากขึ้นเรื่อย ๆ จุดหมายปลายทางที่กำลังจะถึงในไม่ช้า ร่างบางรู้สึกในหัวมันขาวโพลนไปหมด รับรู้แต่เพียงสิ่งที่กำลังแทรกเข้ามาภายในกายของตัวเองเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ยุนโฮโถมแก่นกายเข้าใส่ไม่หยุด ไม่นานนัก แก่นกายบริสุทธิ์ก็ปลดปล่อยน้ำรักสีน้ำนมออกมา
“อ๊า!!!!!”
ช่องทางร้อนตอดรัดตุบ ร่างบางเกร็งกระตุกปลดปล่อยน้ำอุ่นร้อนออกมา ร่างสูงที่ยังไม่ได้ปลดปล่อยกระแทกแก่นกายแรง ๆ เข้าไปอีกไม่กี่ครั้งก็ปลดปล่อยน้ำรักเข้าไปในช่องทางนั่น น้ำรักที่ร่างสูงปล่อยออกมานั้นมีเยอะจนร่างบางต้องกัดฟันแน่น รู้สึกเสียววูบที่ท้องน้อยเป็นอย่างมาก
ร่างสูงหอบหายใจมองใบหน้าหวานที่สับสีระเรื่อ ความเสียวซ่านตรงแก่นกายที่ถูกช่องทางสีหวานตอดรัดมันยังคงไม่จางหายไป เขาไม่เคยถึงจุดสุดยอดแรงขนาดนี้มาก่อน ร่างขาวเนียนตรงนี้สามารถมอบความสุขอันแสนวิเศษให้เขาได้เป็นอย่างดีตามที่เขาคาดไว้ไม่มีผิด
ดวงตาสวยปรือลงด้วยความเหนื่อยอ่อน ริมฝีปากสีแดงสดเผยอขึ้นหอบราวกับไปวิ่งมาเป็นระยะทางหลายกิโล เปลือกตาบางค่อย ๆ เลื่อนลงบดบังดวงตากลมไม่ให้มองเห็นภาพภายนอก ก่อนจะปล่อยให้ตัวเองจมดิ่งลงสู่ห้วงนิทราเพราะความเหนื่อยอ่อน
ร่างสูงถอนแก่นกายออกจากช่องทางคับแน่นช้า ๆ เพราะกลัวคนที่หลับไปแล้วจะสะดุ้งตื่น ยุนโฮทิ้งตัวลงนอนใกล้ ๆ กันกับร่างบางที่นอนหลับสนิท ใบหน้าคมหันไปมองใบหน้าหวานที่หลับตาพริ้ม มือหยาบเลื่อนไปปัดเส้นผมที่ปรกแก้มให้ออกจากใบหน้าหวานเพราะแจจุงอาจจะรำคาญได้ ก่อนจะเลื่อนไปแตะที่แก้มใสอย่างแผ่วเบา และใช้สายตาจดจ้องพิจารณาใบหน้าหวานที่ปรารถนาจะครอบครองมานานด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหมายมากมาย
“ตอนนี้...นายเป็นของฉันแล้วสินะ แจจุง”
...บอกไม่ค่อยถูกเหมือนกัน...
...ว่าความรู้สึกของตัวเองที่มอบให้กับร่างที่สวยงามราวกับนางฟ้านั้นเป็นแบบไหน...
...แค่คู่นอนคนหนึ่ง...
...หรือว่ารักกันแน่นะ?...
+:+:+:+:+:+:+ Innocent Boy +:+:+:+:+:+:+
นับตั้งแต่วันที่ยุนโฮได้มอบรางวัลพิเศษให้กับแจจุง ทั้งสองก็ใช้ชีวิตตามปกติธรรมดาเหมือนอย่างเช่นทุกวัน แจจุงก็ทำงานต่าง ๆ ที่ตนได้รับคำสั่งมา ส่วนยุนโฮก็ประชุมบ้าง เซ็นสัญญากับบริษัทนู่นนี่ บางทีเจอกันก็พูดคุยกันเล็ก ๆ น้อย ๆ ราวกับว่าทั้งสองนั้นไม่ได้มีสัมพันธ์พิเศษอะไรกันมากมาย
วันนี้ก็เช่นกัน ร่างบางที่เดินเข้ามาในบริษัทในตอนเช้าใช้ขาเรียวพาตัวเองมาถึงโต๊ะทำงานตัวเดิมในเวลาปกติ แจจุงหย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ที่แสนคุ้นเคย ดวงตากลมหยุดมองที่โต๊ะทำงานตัวเองแล้วก็ต้องชะงัก เมื่อบนโต๊ะของเขามีแผ่นกระดาษเล็ก ๆ แผ่นนึงถูกแฟ้มงานของเขาวางทับไว้
มือเรียวจัดการหยิบมันขึ้นมา ดวงตากลมโตกวาดสายตาอ่านลายมือที่ไม่สวยและไม่หยาบจนเกินไปนั่นจนครบทุกคำ เมื่อรู้ถึงใจความนั้นแล้ว ร่างบางก็ถอนหายใจเฮือก เก็บกระดาษแผ่นนั้นไว้ในแฟ้มของตัวเองให้เรียบร้อย ไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่ว่าทำไมตอนนี้ใจของตัวเองถึงเต้นเร็วนัก
...ก็แค่ท่านประธานเรียกพบ...
...ทำไมครั้งนี้ถึงรู้สึกแปลก ๆ นักนะ...
...หรือว่า...เรากลัวท่านประธาน?...
...ไม่ค่อยเข้าใจตัวเองเลยแหะ...
แจจุงลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูง ใช้ขาเรียวของตัวเองเดินไปยังหน้าห้องของท่านประธานบริษัทอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่ามีสายตาของพนักงานคนอื่นกำลังจ้องมองพฤติกรรมของตัวเองอยู่หลายสิบคู่เลยทีเดียว
‘ก๊อก ๆ'
“ขออนุญาตครับ”
หลังมือบางกระทบกับประตูบานหรูพร้อมกับน้ำเสียงประจำตัวที่ดังออกมาเพื่อเป็นการขออนุญาต และเมื่อเสียงทุ้มดังมาจากด้านในดังแว่วมา มือบางก็จัดการเปิดประตูและแทรกตัวเข้าไปในห้องทำงานหรูอย่างรวดเร็ว
ประตูบานหรูถูกปิดลงอย่างแผ่วเบา ร่างสูงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ขนาดใหญ่นั่งหันหลังมาให้เขา ทำให้เขาไม่สามารถจะมองเห็นตัวของอีกฝ่ายได้ แต่ไม่นานนักดวงตากลมโตก็ได้เห็นใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างเต็มตา เมื่อยุนโฮนั้นหมุนเก้าอี้และหยุดนั่งประชันหน้ากับเขาที่กำลังยืนนิ่งอยู่ฝั่งตรงกันข้าม
“มาเร็วดีนะ”
ร่างสูงพูดพร้อมยกยิ้มให้ แจจุงที่เห็นแบบนั้นจึงยกยิ้มตอบกลับไปบาง ๆ แต่ร่างสูงก็ไม่ปล่อยให้สูญเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ เสียงทุ้มพูดประเด็นสำคัญที่ตัวเองตั้งไว้ออกมาอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะให้ทุกอย่างนั้นเสร็จเรียบร้อยเป็นอย่างดี
“ที่ฉันเรียกนายมาวันนี้เนี่ย เพราะฉันมีเรื่องสำคัญจะบอกกับนาย”
“เรื่องอะไรครับ?”
แจจุงเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย ริมฝีปากบางงอนเชิดขึ้นเล็กน้อย ยุนโฮยกยิ้มกับท่าทางที่แสนน่ารักน่าเอ็นดู แต่ยุนโฮนั้นกลับเลือกที่จะเงียบไปสักครู่หนึ่ง ปล่อยให้บรรยากาศที่เงียบสงัดเข้าครอบคลุมพวกเขาทั้งสองสักพัก
และแล้วร่างสูงก็พูดในสิ่งที่ตัวเองคิดไว้ออกมา คำสั่งที่หลุดออกมาจากริมฝีปากหนานั่นราวกับเป็นสิ่งที่สะกดให้แจจุงนั้นเผลอตอบรับไปอย่างง่ายดาย ทั้ง ๆ ที่เขานั้นจะปฏิเสธมันไปก็ได้ และทันทีที่แจจุงตอบรับไปอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวด้วยความใสซื่อนั้น รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ไม่ได้เห็นมานานก็เผยออกมาให้แจจุงได้เห็นอีกครั้ง...
“เย็นนี้...นายมาหาฉันที่ห้องด้วย โอเคใช่มั้ย?”
“รับทราบครับ ท่านประธาน”
THE END (จะแต่งใสซื่อ แต่ไหงรู้สึกมันออกแนวจิต ๆ เนี่ย - -*)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น