nuffnang

Love Letter [SiHan]

บทความนี้อาจจะมีฉาก อีโรติก บ้างนะฮะ โปรดใช้จินตนาการในการรับชม ถ้าไม่ชอบก็ปิดหน้านี้ซะ ก๊อปได้นะแต่ให้เครดิตด้วย

Title : Love Letter

Paring : Siwon x Hankyung

Author : ~#DN_LoveR#~

Author Note : ฟิค SJ ฟิคแรกในชีวิต เป็นฟิคชั่ววูบคะ = = หวานจนมดไต่คอมเต็มไปหมด(มั้ง) ใครทนความหวานไม่ได้ กรุณาเตรียมกระโถนไว้ข้าง ๆ ตัวด้วยนะค่ะ - -




+:+:+:+:+:+:+ Love Letter +:+:+:+:+:+:+










บรรยากาศยามเช้าแสนสดใส แสงอาทิตย์สาดส่องผ่านกระจกบานเล็ก ทำให้เด็กหนุ่มจากแดนจีน ต้องปรือตาขึ้น เปลือกตาบางค่อย ๆ กระพริบถี่ เพื่อปรับสายตาให้เข้าที่




“อืม...เช้าแล้วแหะ เอาละ เตรียมตัวไปโรงเรียนดีกว่าเรา” ฮันกยองค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่ง พลางบิดตัวซ้ายขวาให้หายเมื่อย ก่อนที่ขาเรียวจะค่อย ๆ ก้าวลงจากเตียงเพื่อไปทำกิจวัตรประจำวัน




หลังจากอาบน้ำ แต่งตัว เรียบร้อยแล้ว ฮันกยองก็เดินมาที่ห้องครัวเพื่อทำอาหารเช้าสำหรับตัวเอง ฝีมืออาหารที่ไม่เป็นรองใคร ทำให้เขาไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่เพียงตัวคนเดียวก็ตาม




“ฟู่ว~ ได้ที่ละ♪” ริมฝีปากบางยกยิ้มเล็กน้อย แล้วค่อย ๆ เทอาหารในกระทะ ลงในจานที่จัดไว้ให้เรียบร้อย มือเรียวหยิบจานอาหารไปตั้งที่โต๊ะ ต่อจากนั้นก็เลื่อนเก้าอี้ แล้วลดตัวลงนั่งให้เรียบร้อย




ฮันกยองนั่งทานข้าวเช้าอย่างมีความสุขเหมือนทุกวัน สายตาก็เหลือบดูนาฬิกาตลอด ว่าสายรึยัง เมื่อเห็นว่ายังเช้าอยู่ เขาก็นั่งทานข้าวไปเรื่อย ๆ อย่างสบายใจ




...อาหารก็อร่อย....อากาศก็ดี....




...บรรยากาศแบบนี้ดีจริงๆแหะ....




หลังจากที่ทานข้าวเช้าเสร็จแล้ว ฮันกยองก็จัดการล้างให้เรียบร้อย แล้วเดินไปหยิบกระเป๋าเป้ เตรียมตัวไปโรงเรียนอย่างสดใส




“เอาละ วันนี้ไปเช้าหน่อยดีกว่าเรา~” ฮันกยองเดินออกจากห้องพักของตัวเอง พร้อมกับเดินทางไปโรงเรียนอย่างสดใสเช่นทุกวัน







+:+:+:+:+:+:+ Love Letter +:+:+:+:+:+:+







ณ โรงเรียน SM Town ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ฮันกยองเรียนอยู่ ฮันกยองเดินไปที่ห้องเรียนของเขาตามปกติ ระหว่างเดินก็ทักทายเพื่อนที่รู้จักอย่างร่าเริงสดใส สักพัก ร่างโปร่งเดินมาถึงหน้าห้องเรียนของตัวเอง มือบางเปิดประตูห้อง พร้อมส่งเสียงทักทายเพื่อน ๆ อย่างเช่นทุกวัน




“อรุณสวัสดิ์~~♪” ฮันกยองตะโกนลั่นห้อง พลางเดินตรงดิ่งมายังโต๊ะเรียนของเขา พร้อมวางกระเป๋าให้เรียบร้อย มือเล็กเปิดกระเป๋าเรียน ก่อนจะค่อย ๆ หาอะไรบางอย่างในกระเป๋า




ฮันกยองหยิบซองจดหมายในกระเป๋าขึ้นมา ซองจดหมายนั้นถูกปิดด้วยสติ๊กเกอร์รูปหัวใจ ฮันกยองหันซ้ายหันขวาสำรวจสภาพห้อง ตอนนี้ในห้องไม่มีใครอยู่เลย นอกจากเขาคนเดียว เพราะตอนนี้ยังเช้ามาก และนักเรียนส่วนใหญ่มักจะไปเดินรอบ ๆ โรงเรียน มากกว่ามานั่งรวมกันอยู่ในห้อง




ฮันกยองเดินมาที่โต๊ะเรียนที่ตั้งอยู่ข้างหน้าโต๊ะของเขา แล้วเอาจดหมายที่อยู่ในมือ ใส่เข้าไปใต้โต๊ะเรียนนั่น แต่ใต้โต๊ะนั้นก็มีจดหมายฉบับอื่นมากพอสมควร




คิ้วบางขมวดนิด ๆ เมื่อเห็นจำนวนจดหมายมากมาย ที่ถูกใส่ไว้ในโต๊ะตั้งแต่เช้าขนาดนี้ แถมเจ้าของโต๊ะยังมาไม่ถึงโรงเรียนซะด้วยซ้ำ




“หนอย~ เสน่ห์แรงนักน่ะเจ้าซีวอน ได้จดหมายเยอะซะจริ๊ง~ น่าหมั่นไส้ชะมัด” ฮันกยองบ่นคนเดียว ถึงเขาจะเคยได้จดหมายรักมาบ้างก็เถอะ แต่กว่าจะได้สักครั้งนะ มันได้ง่าย ๆ ขนาดนี้ซะที่ไหนเล่า




“..........แต่ว่า....ซีวอนจะสนจดหมายของเรารึเปล่าน่ะ...” ฮันกยองถอนหายใจ แต่ใบหน้าขึ้นสีนิด ๆ กับเรื่องที่ตัวเองกำลังตัดสินใจทำลงไป




...วันนี้....จะสารภาพไปซะที....




...ว่ารู้สึกยังไงกับเจ้าบ้านี่.....




...ผลจะเป็นยังไงกันน่ะ......







ครืด ~ ...







จู่ ๆ เสียงเปิดประตูห้องเรียนก็ดังขึ้น ทำเอาฮันกยองที่ยืนอยู่สะดุ้งโหยง รีบเดินออกจากรัศมีของโต๊ะซีวอนทันที ก่อนที่จะหันไปดูว่าใครเปิดประตูเข้ามา




“หวัดดีฮัน~ มาเช้าอีกแล้วน้า~” จองซูทักทายฮันกยอง พร้อม ๆ กับเดินเข้ามากอดคอเพื่อนรักอย่างเช่นทุกวัน




“ไงจองซู วันนี้ไม่มาพร้อมยองอุงแล้วหรอ?” ฮันถามด้วยน้ำเสียงขี้เล่นพลางกอดคอกลับ




“เจ้าหมีบ้านั่นนะเหรอ ปล่อยมันไปเหอะ ฉันเกลียดมัน!!” จองซูพูดอย่างฉุนเฉียว มือที่ถือกระเป๋าอยู่ก็ฟาดกระเป๋าลงบนโต๊ะของตัวเองดังป้าบ จนโต๊ะเรียนนั้นแทบจะพังได้อย่างรวดเร็ว




ฮันกยองที่เห็นสภาพเพื่อนตัวเองก็เหงื่อตกเล็กน้อย เพราะเวลาจองซูทะเลาะกับยองอุงทีไร ถ้ายังไม่ได้คืนดีกันนะเหรอ...ก็จะมาลงที่เขา ไม่ก็สิ่งของรอบ ๆ ตัวแทนน่ะสิ




“ทะเลาะกันอีกละสิ โธ่~ ฉันก็เห็นพวกนายรักกันดีนี่ นายไปคืนดีกับยองอุงเหอะ” ฮันกยองพยายามพูดอย่างนุ่มนวล ก่อนจะนั่งลงคุยกับจองซูต่อ




“ไม่!!!! ฉันจะไม่ไปง้อเด็ดขาด!! คนที่ต้องง้อนะ คือเจ้าหมีบ้านั่นต่างหาก!! บังอาจแย่งไอศกรีมของฉันดีนัก!!!!” จองซูพูดอย่างแค้นใจ พร้อมกับทำท่าฮึดฮัดอย่างไม่สบอารมณ์ แต่ฮันกยองที่เพิ่งจะรู้สาเหตุที่ทะเลาะกันนี่สิ แทบจะตกเก้าอี้หัวทิ่มพื้นไปในทันที




“ห๊า!!!! นี้ทะเลาะกันจะเป็นจะตายเพราะเรื่องนี้เนี่ยน่ะ!!! ให้ตายเหอะ กลับมาเป็นแบบนี้อีกแล้วเหรอ!!” ฮันกยองนวดขมับเบา ๆ จองซูเห็นสภาพของคนตรงหน้า ก็รีบเปลี่ยนเรื่องคุยอย่างรวดเร็ว ไม่งั้นเดี๋ยวมันจะเสียบรรยากาศดี ๆ ยามเช้าไปซะก่อน




“ช่างมันเหอะ เดี๋ยวเจ้าหมีบ้านั้นก็มาง้อฉันเองแหละ ว่าแต่นายเหอะฮัน ฉันรู้นา~ ว่าวันนี้นายกะจะทำอะไรตอนเย็นนี้นะ~~” จองซูยิ้มทะเล้น มือก็ชี้หน้าฮันกยองไปด้วย ฮันกยองที่ได้ยินก็ตกใจสุด ๆ ตาโตจนแทบจะถลนออกมาอยู่แล้ว แต่ก็ทำเป็นนิ่งเงียบ เหมือนกับว่าเมื่อกี้เขาไม่ได้เป็นอะไร




“อะไร เย็นนี้ฉันจะทำอะไรห๊ะ จองซู ตอนเย็นฉันก็กลับบ้านตามปกติ ไม่เห็นจะมีอะไร” ถึงจะพูดไปแบบนั้น แต่ตอนนี้ฮันกยองอยู่ไม่ค่อยนิ่งแล้ว จากตอนแรกที่นั่งคุยไป จ้องหน้าจองซูไป ตอนนี้กลายเป็นเมินหน้าหนี ไม่กล้าจ้องหน้าจองซูซะแล้ว




“หุ ๆ ๆ ไม่ต้องปิดไปหรอก~~ เมื่อเช้าฉันเห็นน้า~~ นายเอาจดหมายรักของนายไปใส่ใต้โต๊ะซีวอนใช่มั้ย♥” จองซูยิ้ม พร้อมกับเอาศอกไปจิ้มที่แขนฮันกยองเบา ๆ ที่ตอนนี้นั่งหน้าขึ้นสีจัด แถมเริ่มจะมีควันลอยออกมาจากหน้าอีกด้วย




“จ...จ...จอ....ง....จอง....ซู....น....น....นา....นาย.....!!!!!!!???” ฮันกยองที่โดนจับได้ ทั้งเขิน ทั้งโกรธ จนพูดอะไรไม่ออก รีบเอาหน้าฟุบลงไปกับโต๊ะทันที จองซูที่นั่งอยู่ข้าง ๆ นั่งขำจนตัวงอ แถมยังนั่งยิ้มทะเล้นอย่างสนุกที่ได้แกล้งเพื่อนรักของตัวเอง




“เอาน่า ฉันก็สังเกตมานานแล้วล่ะ ตอนนั่งเรียนในห้องนะ ฮันเอาแต่จ้องซีวอนนี่นา ไม่ชอบก็แปลกแล้ว” จองซูเริ่มแหย่ต่อ เก้าอี้ก็เริ่มขยับเข้าไปใกล้ฮันกยองทีละนิด ๆ




ฮันกยองที่ก้มหน้าอยู่เมื่อตะกี้ ก็ลุกพรึ่บขึ้นด้วยความตกใจ แถมหน้าก็ยังขึ้นสีไม่หายอีกต่างหาก จองซูที่เห็นสภาพเพื่อนตัวเอง ก็หลุดขำออกมาอีกรอบ




“นายรู้ด้วยเหรอว่าฉันแอบมองเจ้านั่นนะ...” ฮันกยองพูดเสียงอ่อย เพราะตอนนี้ไม่รู้จะเขิน รึว่าจะโกรธเพื่อนคนนี้ดี ที่มารู้ว่าเขาแอบชอบใคร




“นี่ ฮัน ฉันกับนายเป็นเพื่อนกันมาตั้งหลายปี ทำไมจะไม่รู้ล่ะ ว่านายแอบชอบใคร เย็นนี้ก็ขอให้ได้คำตอบตามที่หวังไว้นะ” จองซูยิ้มให้ พร้อมกับตบไหล่ฮันกยองเบา ๆ ฮันกยองยิ้มให้จองซูเล็กน้อย แล้วดึงจองซูมากอดคอไว้ เวลาที่เขาไม่สบายใจ จองซูก็มักจะมาให้กำลังใจเขาแบบนี้เสมอ




“เฮ้อ~...แต่มันจะเป็นไปตามที่หวังมั้ยน้า ก็ฉันเคยคุยกับซีวอนแบบนับครั้งได้เลยน่ะ” ฮันกยองถอนหายใจยาว แล้วนั่งเท้าคางอย่างเหนื่อยใจ







ครืด~...







เสียงเปิดประตูห้องดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้มีเสียงคุยดังลั่นเข้ามาในห้อง จนฮันกยองกับจองซูที่กำลังนั่งคุยกันอยู่ต้องหันไปดู



แต่พอหันไปดูเป็นอันต้องอึ้ง เพราะคนที่เข้ามา คือคนที่เพิ่งจะโดนฮันกยองบ่นถึงเมื่อตะกี้นี้ นั่นคือกลุ่มของ “ชเว ซีวอน” นั่นเอง




ฮันกยองรีบหันหลังให้พวกกลุ่มของซีวอนด้วยความเร็วปานแสง จองซูที่เห็นเหตุการณ์ก็ชักจะเหนื่อยใจแทน




...เอาเข้าไปสิ...แค่จะจ้องหน้ายังไม่กล้า...




...ถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่...




...นายจะกล้าสารภาพรักกับเจ้าซีวอนรึเปล่าเนี่ย...ฮัน...




“โหย~ ไอ้วอน วันนี้ได้จดหมายรักกี่ฉบับว่ะ พวกเราเห็นแล้วอิจฉาน่ะเว้ย” เสียงเพื่อนในกลุ่มของซีวอนคนหนึ่งพูดขึ้น ซีวอนก็จัดการหยิบจดหมายใต้โต๊ะทั้งหมดขึ้นมา แล้วนั่งนับให้เห็นกันต่อหน้าต่อตาไปเลย




“20...21...22....อืม~...25 ฉบับเหรอ วันนี้ได้น้อยแหะ” ซีวอนพูดเซ็ง ๆ แต่เพื่อนในกลุ่มแทบอยากจะจับหัวซีวอนโขกกับโต๊ะซะจริง




“เนื้อหอมจริงนะคุณชาย~ !!! แบ่งเสน่ห์มาให้พวกเราบ้างดิว่ะ~!!!” เพื่อนในกลุ่มเริ่มรุมทึ้ง ช่วยกันล็อคคอซีวอน เสียงในห้องดังสนั่น เพราะเกิดการช่วยกันรุมอัดชายหนุ่มเสน่ห์แรงประจำโรงเรียน




“ฮัน ฉันว่าเราไปเดินเล่นดีกว่าน่ะ ไว้ถึงเวลาเรียนแล้วค่อยกลับมา” ฮันกยองกับจองซูที่นั่งอยู่ ชักจะรู้สึกว่าเหมือนเป็นพวกส่วนเกิน ทั้งคู่ค่อย ๆ เดินออกไปจากห้องอย่างเงียบ ๆ






“หึ ๆ ของแบบนี้มันไม่มีทุกคนหร๊อก~ งั้นฉันขอตัวเอาจดหมายไปอ่านที่เงียบ ๆ ก่อนละกัน วันนี้จะได้ไปปฎิเสธคนได้ถูกที่ถูกเวลา” ซีวอนพูดหน้าทะเล้น ก่อนจะลุกขึ้นพร้อมหยิบกองจดหมายรักของตัวเองออกไปจากห้อง ท่ามกลางเสียงโห่ของเพื่อน ๆ ในกลุ่ม







+:+:+:+:+:+:+ Love Letter +:+:+:+:+:+:+







ฮันกยองและจองซูนั่งคุยกันอยู่ที่สวนหย่อมในโรงเรียนอย่างสบายใจ ถึงแม้จะมีกัดกันบ้าง และจองซูก็มักจะหยอกฮันกยองเล่นอยู่เสมอ




“เฮ้ย ฮัน ดูนั่นดิ ไอ้ซีวอนยืนอยู่นั่นนะ” จองซูชี้นิ้วไปทางด้านหลังฮันกยอง ฮันกยองหันไปมองด้านหลัง ซีวอนกำลังยืนอยู่กับนักเรียนหญิงคนหนึ่งที่ข้างต้นไม้ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากพวกเขาสักเท่าไหร่




“สงสัยมาปฎิเสธคำขออีกละสิ” ฮันกยองพูดด้วยอารมณ์โกรธนิด ๆ แต่ลึก ๆ แล้วเขาก็ดีใจ ที่ซีวอนไม่คบกับนักเรียนหญิงที่มาสารภาพรัก




“แต่ถ้าเป็นฮันน่ะ ฉันว่าซีวอนรับรักฮันแ...” ไม่ทันได้พูดจบ มือของหนุ่มจีนก็พุ่งออกมาปิดปากจองซูด้วยความเร็วปานแสง



“จะบ้าเหรอจองซู!!! เดี๋ยวซีวอนก็ได้ยินหรอก!!!!?” ฮันกยองตอนนี้เหงื่อแตกพลั่ก เพราะตะกี้จองซูพูดเสียงเบา ๆ ซะที่ไหนเล่า




แต่พอฮันกยองหันไปมองซีวอน เห็นซีวอนไม่มีที่ท่าว่าจะหันมา ก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก สักพักก็เห็นซีวอนส่ายหน้าเล็กน้อย แล้วนักเรียนหญิงคนนั้นก็วิ่งไปร้องไปอย่างน่าสงสาร




“นั่นไงล่ะ เป็นไปตามที่คิดเลย” ฮันกยองที่นั่งดูเหตุการณ์อยู่หันมาบ่น จองซูพยักหน้าเห็นด้วย แล้วหันมาดูนาฬิกาที่ข้อมือของตัวเอง




“แย่แล้วฮัน!! อีก 5 นาทีก็ถึงเวลาเรียนแล้วน่ะ!! วิ่งเร็ว!!!” จองซูพูดหน้าตาตื่น พร้อมกับดึง(ฉุด)ให้ฮันกยองวิ่งตามตนไปอย่างรวดเร็ว






หลังจากที่หนุ่มจีนและหนุ่มตาสวย รีบวิ่งมาอย่างสุดชีวิต ไม่นานนัก ทั้งคู่ก็มาถึงห้องเรียนของตน แล้วเดินไปนั่งในสภาพที่หอบแฮ่ก คล้ายกับคนเพิ่งจมน้ำมาก็ไม่ปาน (?)




“แฮ่ก ๆ ๆ ๆ....เหนื่อยวุ้ย ดีน่ะเนี่ยที่มาทัน คาบแรก ’จารย์โหดซะด้วย” จองซูพูดไปหอบไป มือก็ทำหน้าที่ปาดเหงื่อที่ไหลออกมาไม่หยุดไม่หย่อน




“แฮ่ก ๆ...นั่นดิ เหนื่อยชะมัด...แต่...ทำไม...ไอ้ซีวอนมาถึงห้องก่อนพวกเราล่ะ?...” ฮันกยองกระซิบถามจองซู เพราะตอนที่ทั้งคู่วิ่งมาที่อาคาร ยังเห็นซีวอนเดินเล่นอยู่แถวสวนหย่อมอยู่เลย




“เออ นั่นดิ...แฮ่ก ๆ....แล้วดูดิ หน้าตามันสบายใจอย่างแรง ไม่มีเหงื่อสักหยด มันเดินมาทางไหนของมันว่ะเนี่ย” จองซูสบถ เพราะเขามาแบบใส่เกียร์หมา เร่งสปีดจนหัวแทบจะทิ่มพื้น แต่ซีวอนกลับนั่งยิ้มหน้าระรื่น แถมไม่มีเหงื่อสักหยด




“ช่างเหอะ ตอนนี้เงียบแล้วตั้งใจเรียนดีกว่านะจองซู ’จารย์จ้องมาทางพวกเราแล้วนะนั่น” ฮันกยองพูด พลางหยิบสมุดขึ้นมา จองซูทำปากยื่นแบบไม่ค่อยพอใจ แต่ก็ยอมนั่งตั้งใจเรียนอย่างโดยดี







+:+:+:+:+:+:+ Love Letter +:+:+:+:+:+:+







“เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี้ อย่าลืมทำการบ้านมาด้วยล่ะ” เสียงของอาจารย์สั่งเสร็จ เสียงออดหมดคาบก็ดังขึ้น หัวหน้าห้องบอกทำความเคารพอาจารย์เสร็จปุ๊บ นักเรียนในห้องต่างร้องเฮกันลั่น แล้วพร้อมใจกันออกไปซื้อข้าวเที่ยงมากินกัน




ฮันกยองและจองซูนั่งกินข้าวเที่ยงกันในห้องเรียน กลุ่มซีวอนก็เช่นกัน แต่จะให้เพื่อนในกลุ่มบางส่วนไปซื้อขนมปังมากินกัน เสียงในห้องเรียนจึงยังคงดังกระหึ่มเพราะกลุ่มของซีวอน ซึ่งแต่ละคนในกลุ่มต่างเป็นคนดังของโรงเรียนทั้งนั้น เสียอย่างเดียว กัดกันเองในกลุ่มประจำ




“ฮัน วันนี้นายทำข้าวกล่องมาให้ฉันรึเปล่า~” จองซูถาม พร้อมกับยื่นมือไปขอข้าวกล่องอย่างหน้าระรื่น




“แน่นอน ขืนฉันไม่ทำมา นายก็คงจะกัดฉันไปทั้งวันนะสิ” ฮันกยองพูดพลางหัวเราะนิด ๆ คำตอบที่ตอบไป ทำเอาจองซูค้อนใส่ฮันกยองวงใหญ่




“รู้หน้าที่ก็ดีแล้วละฮัน ฉันจะได้ประหยัดค่าข้าวกลางวันไปอีกนาน ฮิ ๆ ๆ” จองซูยิ้มหน้าระรื่น พร้อมกับฉกข้าวกล่องมาด้วยความเร็วปานแสง





“ฮะ ๆ ก็เรื่องอื่นนายช่วยฉันนี่นา เรื่องแค่นี้ไม่มีปัญหา” ฮันกยองขำกับท่าทางของจองซู ที่ตอนนี้นั่งกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย ฮันกยองเห็นว่าจองซูเริ่มกินไปแล้ว เลยเริ่มเปิดข้าวกล่อง และกินข้าวบ้าง




ฮันกยองและจองซูกินไป คุยไป อย่างสนุกสนาน บางครั้งคุยไป ฮันกยองก็ต้องยื่นขวดน้ำให้จองซูอย่างรวดเร็ว เพราะเจ้าตัวขำทั้ง ๆ ที่ยังเคี้ยวอาหารไม่หมด ทำให้อาหารติดคอ เป็นอย่างนี้อยู่สองสามครั้ง จนจองซูคิดว่าตัวเองคงใกล้จะถึงฆาตแล้ว




“แค่ก ๆ ๆ แต๊งส์กิ้วนะฮัน เมื่อกี้ถ้าไม่ทันละก็ ฉันคงจะได้ไปเฝ้ายมบาลแน่เลย ฮ่า ๆ ๆ” จองซูหัวเราะชอบใจ ทั้ง ๆ ที่เมื่อตะกี้เพิ่งผ่านการเฉียดตายมา เนื่องจากไก่ทอดติดคอ




“ฉันก็เห็นนายเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่กินข้าวกับฉันนี่ แต่พออยู่กับยองอุงทีไร ไม่เห็นเป็นแบบนี้เลยนี่ สงสัยเพราะยองอุงป้อนให้นายแน่เลย ฮะ ๆ ๆ” ฮันกยองพูดแซว จองซูเกิดอาการเส้นกระตุกไปทั้งตัว(?) แล้วหันขวับมาจ้องฮันกยองด้วยสายตานักฆ่า




“ฮันอย่าไปพูดถึงมันน่ะ!!! แค่ได้ยินชื่อ...ฉันก็อยากจะเอา M16 ไปยิงมันให้ตัวพรุน แล้วตัดอุ้งตีนหมีมาตุ๋นเป็นอาหารจีนอยู่แล้ว!!!!” จองซูบ่นอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับทำท่าประกอบในการเชือดหมี เพื่อจะเอาอุ้งตีนมาตุ๋นเป็นอาหารจีน




“เออ อุ้งตีนหมีที่จีนมันก็อร่อยจริงนะแหละ นายไปหามาให้ฉันหน่อยสิจองซู นายกล้าเชือดจริงรึเปล่าละ ถ้าหามาได้ เดี๋ยวฉันเอาไปทำให้กิน ^ ^” ฮันกยองพูดขำ ๆ แต่จองซูที่ได้ยินก็ต้องหน้ามุ่ย แล้วกลับมานั่งตามปกติ




...แง่ง...หนอย...ฮัน..




...นายก็รู้ว่าฉันไม่กล้าอยู่แล้ว...ยังมาหยอกกันอยู่ได้....




...ฉันเขินนะเว้ย!!!...




“ฮันง่า~ ฉันเขินนะเนี่ย~~ นายก็รู้อยู่แล้วนี่นาว่าฉัน....ช่างมันเหอะ ๆ ๆ นี่ ฮัน ใต้โต๊ะนายมีจดหมายอยู่น่ะ นายได้จากใครหรอ??” จองซูหน้าขึ้นสีนิด ๆ และเริ่มปฏิบัติการเปลี่ยนเรื่องด้วยความเนียนที่สั่งสมมานานนับแรมปี และมันก็ได้ผล เพราะฮันกยองรีบก้มหาซองจดหมายใต้โต๊ะตามที่จองซูบอกทันที




“หืม?? เอ๊ะ?? ใครเอามาใส่ไว้เนี่ย???” ฮันกยองที่เพิ่งจะรู้เรื่องเหมือนกันทำหน้างง ๆ ต่างกับจองซู ที่ตอนนี้นั่งตาเป็นประกายระยิบระยับแล้ว




“เปิด ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ เปิดเลยฮัน!!!! ข้างในเค้าเขียนไว้ว่าอะไรมั่ง > จองซูเริ่มออกอาการกระดี๊กระด๊าอย่างเห็นได้ชัด จนฮันกยองเหงื่อตกแทน




“เอ่อ...จองซู...ฉันเป็นคนได้น่ะ...ไม่ใช่นายเป็นคนได้” ฮันกยองพูดเอือม ๆ แต่ก็เปิดซองจดหมายตามที่จองซูสั่งแต่โดยดี ทั้งคู่เลื่อนใบหน้ามาอยู่ใกล้ ๆ กัน และอ่านเนื้อความในจดหมายไปด้วยกัน





“ถึง...ฮันกยอง...




วันนี้ตอนเย็น คุณช่วยไปเจอฉันที่ดาดฟ้าได้ไหม?...

ฉันอยากเจอคุณ...ฉันมีเรื่องอยากจะบอกคุณ...”





ฮันกยองและจองซูอ่านจบปุ๊บ ตาของทั้งคู่แทบจะถลนออกมาจากเบ้า ก็แหงละ...เป็นใคร ถ้ามาอ่านเนื้อความแบบนี้ ก็ต้องบอกเลยว่า...นี่นะ มันจดหมายบอกรักชัด ๆ !!!!!!




“วู้ววววว เพื่อนฉันขายออกแล้ว!!!! โหยยย ฮัน นายนี้เนื้อหอมเหมือนกันน่ะเนี่ย~♥” จองซูตบไหล่ฮันกยองลงไปดังป้าบ ทำให้สติของฮันกยองกลับมาเข้าที่เหมือนเดิม




“จ...จ...จะ...จริงเหรอเนี่ย!!! มีคนให้จดหมายฉันด้วย!!! หยา...ฉันไม่อยากปฏิเสธเลยแหะ แต่ฉันชอบคนอื่นอยู่นี่นา...” ฮันกยองเริ่มคิดหนัก ก็เมื่อเช้าเขาเพิ่งจะเอาจดหมายรักของตัวเองไปใส่ใต้โต๊ะซีวอน แถมเขาก็นัดเจอซีวอนที่ดาดฟ้า แล้ววันนี้ดันมีคนเอาจดหมายมาให้เขา แถมยังนัดที่เดียวกันกับเขาอีก ที่สำคัญ...เขาไม่ค่อยกล้าปฏิเสธคนซะด้วยนี่สิ...




“อย่าเครียดเลยน่าฮัน ถ้านายไม่ได้รักใคร นายก็ต้องปฏิเสธไปอยู่ดีนะแหละ” จองซูยิ้มให้กำลังใจฮันกยอง ฮันกยองเห็นดังนั้นจึงยิ้มตอบกลับไป




“เฮ้อ~...เอาว่ะ เย็นนี้ สู้ตายเฟ้ย!!!” ฮันกยองกำมือแน่น และพูดให้กำลังใจตัวเอง




“งั้น...วันนี้ฉันไม่กลับพร้อมนายละกันน่ะฮัน วันนี้นายต้องไปทำภารกิจสำคัญนี่เนอะ♥” จองซูพูดด้วยเสียงเจ้าเล่ห์ ทำเอาฮันกยองหมดกำลังใจไปชั่ววูบ




“ง่ะ จองซูอ่า~~ แล้วนายจะรีบกลับไปไหนละ ก็ปกติฉันเห็นนายกลับช้านี่นา” ฮันกยองเริ่มหาข้ออ้างยื้อตัวจองซูไว้ เผื่อว่า...ถ้าสารภาพไป แล้วไม่เป็นไปตามที่เขาหวังไว้ ก็กะจะมาร้องไห้โฮกับจองซูนี่ละ




“ฉันจะไปฆ่าหมีเอาอุ้งตีนหมีมาให้นายทำอาหารไง ฮะ ๆ ๆ ๆ” จองซูพูดขำ ๆ พร้อมหยิกแก้มฮันกยองด้วยความหมั่นเขี้ยว




“โอ๊ยยย หนอย~~ จองซู บังอาจนักนะ!” ฮันกยองเริ่มการล้างแค้นโดยการจั๊กจี๋จองซู ทำเอาจองซูหัวเราะลั่น นั่งบิดตัวไปมาจนตัวงอ




“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ฮัน หยุดเดี๋ยวนี่นะ ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ !!!!!” จองซูขำจนน้ำตาเล็ด แต่ก็ยังคงโดนแกล้งต่อไป สักพักเมื่อฮันกยองเห็นว่าจองซูเริ่มจะหายใจไม่ทัน จึงหยุดแกล้ง แล้วทั้งคู่ก็เริ่มผลัดกันล้างแค้นที่โดนแกล้งกันไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงชั่วโมงเรียนในคาบบ่าย...







+:+:+:+:+:+:+ Love Letter +:+:+:+:+:+:+







และแล้วการเรียนการสอนในวันนี้ก็จบลง นักเรียนในห้องเริ่มแยกย้ายกันกลับบ้านบ้าง เข้าชมรมบ้าง หรือบางคนที่ยังคงอยู่กันในห้องเรียนจนเย็นแล้วค่อยกลับ




“จองซู นายเห็นสมุดวิทย์ของฉันมั้ย??” ฮันกยองหันมาถามจองซูที่นั่งข้าง ๆ จองซูที่โดนถามส่ายหน้าเป็นคำตอบ




“อ๋า~~ แล้วมันหายไปไหนเนี่ย~~ พรุ่งนี้ต้องส่งการบ้านซะด้วยสิ” ฮันกยองเกาหัวจนผมยุ่งไม่เป็นทรง




“เฮ้ นี่ใช่ของนายรึเปล่า?” เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นหลังฮันกยอง ทำเอาฮันกยองสะดุ้งโหยง ก่อนจะหันตัวไปตามเสียง ๆ นั่น



แต่...หันไปปุ๊บ ฮันกยองก็แทบจะยืนตัวแข็งทื่อเป็นหินไปซะแล้ว ก็เสียงที่เรียกเมื่อตะกี้ ใครว่าเค้าจะจำไม่ได้ แต่ที่หันไปก็เพื่อให้แน่ใจ และมันก็เป็นไปตามที่เค้าคาดไว้ไม่มีผิด




“ซ...ซ...ซีวอน....” ฮันกยองพูดตะกุกตะกักแบบปิดไม่มิด ใบหน้ามนรีบก้มหน้าปกปิดทันที เพราะตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกแล้ว ว่าหน้าตัวเองนั่นร้อนขึ้นมากขนาดไหน




“นี่ใช่ของนายรึเปล่า?” ซีวอนเห็นท่าทางของฮันกยองก็งง ๆ แต่ก็ยื่นสมุดที่ตัวเองเจอให้




“เอ่อ...ใช่...ขอบคุณน่ะ” ฮันกยองรีบรับสมุดมา และเก็บสมุดลงกระเป๋าด้วยความเร็ว ซีวอนเห็นท่าทางนั่นก็ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมา แล้วร่างสูงก็เดินออกไปจากห้อง ไม่ใช่ว่ากลับบ้านหรอกน่ะ...แต่ไปปฏิเสธคนต่างหาก




“เฮ้อ~...เกือบไปแล้วมั้ยเรา” ฮันกยองถอนหายใจยาว พลางเลื่อนมือของตัวเองมาปิดใบหน้าที่ขึ้นสีไว้




“ฮิ ๆ ดูท่านายจะแอบชอบมานานมากเลยสิเนี่ย ดูสิ แค่คุยกันธรรมดายังอายขนาดนี้เลยเนี่ย” จองซูพูดไปยิ้มไปด้วยสีหน้าระรื่น นิ้วเรียวก็จิ้มไปที่ต้นแขนของฮันกยอง




ฮันกยองที่ได้ยินก็ยิ่งหน้าขึ้นสีหนักขึ้นไปอีก ตอนนี้เขาทั้งเขิน ทั้งโกรธที่ถูกจองซูพูดแซว ปนกันมั่วจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว




“นี่ ว่าแต่นายไม่ไปดาดฟ้าตามที่มีคนนัด กับที่นายนัดไว้รึไงฮัน? เดี๋ยวก็ไม่ทันหรอก” จองซูเตือนฮันกยองที่ตอนนี้ยังยืนบิดไปบิดมาด้วยความเขิน




“อ๊ะ!!!! จริงด้วย!!! งั้นฉันไปก่อนน่ะจองซู กลับบ้านดี ๆ ละ” ฮันกยองที่เพิ่งนึกได้ก็สะดุ้งเล็กน้อย ก่อนที่จะบอกลาจองซู แล้วรีบวิ่งไปที่ดาดฟ้าโรงเรียนทันที




“สู้ ๆ นะฮัน!!!! บอกให้ได้น้า~~~~!!!!!” จองซูตะโกนตามหลัง ฮันกยองโบกมือกลับมาให้ จองซูเห็นแล้วก็ยิ้มเล็กน้อย ขาเรียวเดินไปหยิบกระเป๋า และเดินออกมานอกห้องเพื่อกลับบ้าน




ขาเรียวยาวได้รูปก้าวเดินไปตามทางเดินช้า ๆ ริมฝีปากบางขยับไปมา เพราะกำลังร้องเพลงอย่างมีความสุข แต่แล้วจู่ ๆ เสียงที่จองซูแสนจะคุ้นเคยก็ดังลั่นมาจากทางด้านหลัง




“ลีทึก~ กลับบ้านพร้อมกันน่ะ” เสียงทะเล้นของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้น ทำเอาจองซูที่กำลังจะเดินกลับบ้านถึงกับชะงัก ก็คนที่จะเรียกชื่อเขาแบบนี้น่ะ....จะเป็นใครไม่ได้นอกจาก...




“ไง ยองอุง” จองซูหันมาทักด้วยสีหน้าเรียบเฉย ทำเอายองอุงหน้ามุ่ย




“ง่า...ลีทึก ยังโกรธฉันเรื่องไอศกรีมอยู่หรอ ฉันขอโทษน้า~~ กลับมาเรียกฉันว่า ‘คังอิน’ เหมือนเดิมน้า~~ เดี๋ยววันนี้ฉันเลี้ยงไอศกรีมนายเอง อยากกินเท่าไหร่กินเลยน่ะ” ยองอุงทำเสียงออดอ้อน จองซูที่ยืนฟังอยู่ขนลุกซู่ แต่พอได้ยินว่าเลี้ยงเท่านั้นละ จากสีหน้าเรียบเฉย กลายเป็นสีหน้ายิ้มระรื่น เหมือนเด็กกำลังจะได้ของเล่น




“คังอินพูดเองแล้วน่ะ งั้นไปกินกันที่ร้านประจำน่ะ~♪” จองซูพูด พร้อมควงแขนยองอุงให้เดินไปพร้อมตนเอง ทำเอายองอุงยิ้มหน้าบานเลยทีเดียว




และแล้ว...จองซูและยองอุงก็กลับมาคืนดีกันได้ ด้วยเหตุผลที่ว่า...ยองอุงยอมเลี้ยงไอศกรีมให้จองซูสุดที่รัก และความเห็นแก่กินไอศกรีมฟรีของจองซู...







+:+:+:+:+:+:+ Love Letter +:+:+:+:+:+:+







ทางด้านฮันกยอง ที่ตอนนี้รีบวิ่งไปที่ดาดฟ้าอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักฮันกยองก็มาถึงประตูดาดฟ้า ร่างโปร่งหอบด้วยความเหนื่อยพักหนึ่ง แล้วเอื้อมมือเล็กไปหมุนลูกบิดประตูที่อยู่เบื้องหน้าช้า ๆ และค่อย ๆ ก้าวขาเข้าไป




เมื่อเดินเข้ามาแล้ว ดวงตากลมโตก็สอดส่องไปทั่วบริเวณ แต่ตอนนี้ยังไม่มีใครมาที่นี่ นอกจากเขาเพียงคนเดียว ขาเรียวก้าวไปยังบริเวณที่มีลวดขึงเป็นตาข่ายกันไว้ไม่ให้คนตกลงไป มือเล็กเอื้อมมาจับลวดไว้ แล้วดวงตากลมโตสีดำมองทิวทัศน์ของเมืองไปรอบ ๆ




สักพักหนึ่ง ฮันกยองก็นั่งลงที่พื้นแถว ๆ นั้น และพยายามรวบรวมความกล้า เมื่อนึกถึงตอนที่ซีวอนมาที่นี่ แต่บนดาดฟ้านี้มีลมพัดมาเบา ๆ ตลอดเวลา ทำให้ฮันกยองเริ่มเคลิ้ม และเริ่มสัปหงกเล็กน้อย




...ฮ้า...อากาศเย็นสบายดีจัง...




“ขอนั่งด้วยได้มั้ย?” เสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยดังขึ้นข้างหูของฮันกยอง ทำให้อาการง่วงเมื่อตะกี้ปลิวไปพร้อมกับสายลมอย่างรวดเร็ว ฮันกยองสะดุ้งโหยงขึ้นทันที




“อะ...ซีวอนเองหรอ...อื้ม ได้สิ” ฮันกยองเริ่มพูดไม่ค่อยออก เพราะคนที่เค้านัดไว้ได้มาตามนัดแล้ว แถมตอนนี้ใบหน้าของทั้งคู่อยู่ห่างกันแค่คืบเดียวเท่านั้นเอง




ซีวอนพยักหน้าเล็กน้อย และลดตัวลงไปนั่งอยู่ข้าง ๆ ฮันกยอง ฮันกยองยิ่งตื่นเต้นหนักขึ้นไปอีกเท่าตัว เพราะในจดหมายที่เขาให้ไป เขาไม่ได้ลงชื่อคนให้ไว้ แถมตอนนี้เขาต้องมารอนัดอีกนัดหนึ่ง ที่เพิ่งได้รับมาเมื่อช่วงบ่ายด้วย




ซีวอนและฮันกยองนั่งเงียบกริบทั้งคู่ บรรยากาศตอนนี้มีแค่เสียงลมพัด และเสียงหายใจของทั้งสองเท่านั้น แต่ถ้าซีวอนนั่งใกล้กันฮันกยองมากกว่านี้อีกสักนิดนึง...คงจะได้ยินเสียงหัวใจเต้นของฮันกยองเป็นแน่




“เอ่อ....ซีวอน นายมาที่นี่...นายมีนัดที่นี่เหรอ?” ฮันกยองถามตะกุกตะกัก ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็รู้อยู่แล้วว่าซีวอนมีนัดเพราะอะไร...




“อืม มาปฏิเสธคนนะ เหลืออีกสองฉบับ” ซีวอนตอบหน้าเรียบ ๆ แต่คำตอบนั้นทำให้ใจของฮันกยองแทบจะหล่นวูบ




“งั้นเหรอ...นายนี่เนื้อหอมจังนะ” ฮันกยองพูดเสียงเศร้านิด ๆ พลางค่อย ๆ นั่งชันเขา แล้วเอาหน้าซุกไปที่เข่าของตัวเอง




“หึ...ว่าแต่นายละ มาทำอะไรที่นี่นะ?” ซีวอนถามกลับ แต่ด้วยความที่ว่าหันหน้าไปถามแรงไปนิดนึง ทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น







จุ๊บ........







“O///////////O!!!!!!!!!!!!” ฮันกยองที่นั่งชันเข่าเมื่อตะกี้ ผละตัวออกไปด้วยความเร็วสูง ใบหน้ามนเริ่มขึ้นสีจัด มือเล็กเลื่อนมาจับไว้ที่แก้มของตน...ที่เพิ่งจะโดนซีวอนหอมแก้มไปเมื่อตะกี้... ผิดกับซีวอน ที่ยังทำหน้าตายด้านเหมือนเดิม เหมือนเมื่อตะกี้เขาไม่ได้ทำอะไร




“อะ...เอ่อ...คือ...ฉันมาตามนัดนะ พะ...พอดีว่า...มีคนส่งจดหมายมานัดฉันนะ...” ฮันกยองพูดตะกุกตะกักหนักกว่าเดิม ใบหน้ายังขึ้นสีไม่หาย พร้อมกับเลื่อนตัวออกห่างจากซีวอนเป็นระยะเกือบเมตร




“งั้นหรอ...” ซีวอนพูดเสียงเรียบเช่นเคย และแล้วความเงียบก็กลับเข้ามาครอบงำอีกครั้งหนึ่ง ฮันกยองกลับมานั่งชันเข่าอีกครั้ง ผิดกับซีวอนที่นั่งเอกเขนกอย่างสบายใจ







แอ๊ด~...







เสียงเปิดประตูดังขึ้น ทำให้ชายหนุ่มทั้งสองหันหน้ามามองที่ประตู เพื่อดูว่าใครกำลังเดินเข้ามา เมื่อทั้งคู่เห็นคนที่มาใหม่เดินเข้ามา ก็รู้ได้ในทันทีเลยว่าเธอเป็นใคร เพราะเธอนั้นเป็นคนดังประจำโรงเรียนมานาน




โบอา...นักเรียนหญิงที่เพรียบพร้อมในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะทรัพย์สิน ใบหน้า และความสามารถทางด้านดนตรีของเธอ ที่ทำให้เธอนั้นคว้ารางวัลต่าง ๆ สร้างชื่อเสียงมาให้โรงเรียนหลายต่อหลายครั้ง




“ไงจ้ะ ซีวอน ให้ฉันตามหาซะทั่วเลยน่ะ ทำไมป่านนี้ยังไม่กลับบ้านอีกละ” โบอาพูดพลางทำแก้มป่องใส่ซีวอน




“ฉันมาปฏิเสธคนนะ เธอกลับไปก่อนก็ได้ ไม่ต้องรอฉันหรอก” ซีวอนพูดหน้าเซ็ง ๆ พร้อมกับสะบัดมือไล่ ทำเอาโบอาคิ้วขมวดเลยทีเดียว




“อะไรเล่า ก็ฉันไม่มั่นใจนี่นา ว่าซีวอนจะกลับบ้านจริงรึเปล่า ถ้าป่านนี้ยังไม่กลับ เดี๋ยวก็ไม่ได้กินข้าวเย็นพร้อมกันอีกนะสิ” โบอาเดินเข้าไปใกล้ซีวอน และค่อย ๆ ลดตัวลงนั่งข้าง ๆ แขนเล็กเอื้อมมากอดร่างสูงไว้แน่น




ฮันกยองที่นั่งอยู่ห่างจากสองคนนั้น ภาพตรงหน้ามันพาลจะทำให้เขาร้องออกมาได้ง่าย ๆ ก็ในเมื่อวันนี้เขาตั้งใจจะมาสารภาพกับซีวอน และปกติซีวอนจะไม่ยอมให้ผู้หญิงคนไหนมากอดเด็ดขาด




....สงสัย...ฉันคงต้องเลิกหวังแล้วสิน่ะ....




...ทั้ง ๆ ที่แอบหวัง...ว่านายจะหันมามองฉันสักนิด...




...สองคนนี้ก็เหมาะสมกันดีออก....ก็พวกเขารักกัน...ถึงขนาดนี้นี่เนอะ...




...นายคงต้องเลิกหวังได้แล้วสิน่ะ...ฮันกยอง....




“เธอกลับไปกินก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันค่อยไปหาอะไรกินเอง” ซีวอนเลื่อนมือหยาบกร้านของตัวเอง มาลูบหัวโบอาเบา ๆ ริมฝีปากหนาประทับลงบนหน้าผากของคนตรงหน้าอย่างแผ่วเบา




“ง่า...เอางั้นก็ได้ เห็นว่ายอมจุ๊บหน้าผากหรอก ก็ปกติไม่ค่อยทำแบบนี้กับฉันนี่” โบอาทำหน้างอน ๆ แต่ก็เปลี่ยนกลับเป็นยิ้มเหมือนเดิม ใบหน้าหวานหอมแก้มคนตรงหน้า ก่อนที่จะลุกขึ้น และเดินกลับไปยังบ้านของเธอเอง




ซีวอนยิ้มออกมาเล็กน้อยกับการกระทำของโบอา ผิดกับฮันกยอง...ที่ตอนนี้เริ่มซุกหน้ากับเข่าของตัวเอง ทั้งสองยังคงนั่งเงียบต่อไปเรื่อย ๆ จนตอนนี้เริ่มเย็นแล้ว ทั้งสองก็ยังคงนั่งอยู่เงียบ ๆ




“....ฉันไปก่อนน่ะซีวอน....ฉันว่า...คนที่นัดฉันคงจะไม่มาแล้วละ...” ฮันกยองค่อย ๆ ลุกขึ้น และใช้มือตัวเองปาดน้ำตาที่ไหลออกมาเมื่อกี้ให้เรียบร้อย




“อืม” ซีวอนตอบเรียบ ๆ ใบหน้าคมหันไปอีกทาง ฮันกยองหันมามองซีวอนอีกครั้ง ก่อนที่ขาเรียวจะค่อย ๆ ก้าวเดินไปยังประตูดาดฟ้า




ฮันกยองเดินมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงประตูดาดฟ้า มือเล็กเอื้อมมาจับที่ลูกบิดประตู และเริ่มออกแรงหมุนเล็กน้อย แต่ก็ต้องหยุดแรงไว้แค่นั้น เมื่อเขาหวนกลับมานึกถึงสิ่งที่เขาตั้งใจจะทำในวันนี้




...วันนี้.....ฉันอุตส่าห์คิดว่า...ฉันจะกล้าสารภาพกับซีวอน....




...ว่าฉันชอบเขา....ชอบมาตั้งนานแล้ว...แต่....




...ฉันจะปล่อยให้มันผ่านไปแบบนี้....มันจะดีรึเปล่าน่ะ?....




...แล้วถ้าพรุ่งนี้จองซูมาถามฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้....




...จองซูจะเสียใจแทนฉันอีกรึเปล่าน่ะ?.....




ฮันกยองเงยหน้าขึ้น สูดลมหายใจเข้าออกลึก ๆ สองสามครั้ง มือเล็กปล่อยออกจากลูกบิดประตู และหันหลังกลับมาหาซีวอนอีกครั้ง




“ซีวอน มานี่หน่อยได้มั้ย” ฮันกยองถาม ซีวอนที่กำลังนั่งสบาย ๆ อยู่หันมามอง ทำหน้าสีหน้างงเล็กน้อย แต่เขาก็ลุกขึ้น แล้วค่อย ๆ เดินไปหาตามคำขอร้องของร่างโปร่ง




“มีอะไรล่ะ?” ซีวอนถาม พลางหมุนตัวไปพิงกับผนังข้าง ๆ ประตู ฮันกยองก้มหน้าหลบสายตาของซีวอน ริมฝีปากเม้มแน่นเป็นเส้นตรง คิ้วบางขมวดเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะตัดสินใจพูดในสิ่งที่เขาอยากจะบอกกับคนตรงหน้า




“ฉันชอบนาย!!!!!!!” ฮันกยองพูดเสียงดัง ใบหน้ามนขึ้นสีจัด พลางเสหน้าหันไปทางอื่น หลบจากสายตาของร่างสูงตรงหน้า




ซีวอนที่ยืนฟังฮันกยองพูด ถึงกับยืนอึ้ง นัยน์ตาคมเบิกโพลงกับสิ่งที่เขาได้ยิน ยิ่งเห็นสีหน้าของคนที่สารภาพรักกับเขาในตอนนี้ มันยิ่งทำให้เขาอึ้งยิ่งกว่าเดิม




“ฉันชอบนายมานานแล้วละ....ฉันแอบมองนายมาตลอด....ฉัน...ฉันแค่อยากบอกให้นายรู้...นายไม่ต้องให้คำตอบฉันก็ได้น่ะ...ซีวอน....” ฮันกยองพูดด้วยเสียงสั่น เขาเริ่มรู้สึกว่าเริ่มมีน้ำเอ่อคลอเต็มเบ้า แค่กลั้นไม่ให้มีเสียงสะอื้นนี้ก็ยากแล้ว ถ้าขืนเขายังอยู่ต่อ ซีวอนคงจะได้เห็นเขายืนร้องไห้แน่นอน ทันทีที่คิดได้ ฮันกยองรีบเอื้อมมือไปเปิดประตู และรีบวิ่งออกไปทันที




“เฮ้ย!!!!?? เดี๋ยวก่อน!!!!!!!??” ซีวอนรีบพุ่งตัวไปจับฮันกยองทันที ด้วยความาสามารถทางกีฬาที่ร่างสูงมีมากกว่า ทำให้จับตัวฮันกยองได้ทัน ไม่รอช้า ซีวอนดึงตัวร่างโปร่งเข้ามา และหมุนตัวให้ร่างโปร่งพิงไปกับกำแพง ร่างสูงเลื่อนตัวมาคร่อมไว้อย่างรวดเร็ว




“โอ๊ย!!?” ฮันกยองนิ่วหน้า และร้องออกมาด้วยความเจ็บ เพราะซีวอนเหวี่ยงเขาแรงจนกระแทกกำแพงไปเต็ม ๆ แต่เมื่อเปลือกตาบางเปิดตาขึ้น เขาก็ต้องรีบหันหน้าหนีทันที เพราะหน้าซีวอนกับเขาห่างกันไม่ถึงคืบ




“เมื่อกี้...นายบอกว่า...นายชอบฉันงั้นเหรอ” ซีวอนกระซิบถามข้างหูเล็ก ฮันกยองขนลุกซู่ ใบหน้ามนขึ้นสีจัด ดวงตากลมโตเริ่มมีหยดน้ำใสคลอเล็กน้อย




“ใช่....แต่ฉันแค่อยากจะบอกให้นายรู้ นายไม่ต้องให้คำตอบฉันก็ได้นะ...ฮึก...เพราะฉันรู้อยู่แล้วละ...ว่าคนที่นายต้องการนะ...มัน...ฮึก...ไม่ใช่คนอย่างฉัน” น้ำใส ๆ ไหลจากดวงตากลมโต ฮันกยองพยายามกลั้นเสียงสะอื้น แต่มันก็ยังเล็ดลอดออกมาจนคนที่ยืนอยู่ด้วยได้ยิน




“.......”




“ฉันรู้.....ว่าสิ่งที่ฉันต้องการ.....ฮึก......มันไม่มีทางเป็นไปได้....ฮึก.......”




“.......”




“ฉันขอโทษ....ฮึก.....ขอโทษ.....ที่ดันมีความรู้สึกบ้า ๆ แบบนี้กับนาย.....ฮึก....ฮึก....”




“.......”




“ที่ฉันบอกไป...ถ้านายได้ยินแล้วไม่อยากจะเข้าใกล้....หรือรังเกียจฉัน....ฮึก....ก็ไม่เป็นไรหรอก.....ฉันรู้.....ว่าคนที่นายเลือกนะคือใคร...ฮึก...นายกลับไปหาคน ๆ นั้นเถอะนะ...ซีวอ....” ไม่ทันได้พูดจบ จู่ ๆ ริมฝีปากหนาก็ประทับลงที่ริมฝีปากบางอย่างรวดเร็ว ฮันกยองเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ ริมฝีปากบางเผลอเปิดเล็กน้อย ทำให้ลิ้นร้อนของซีวอนสอดเข้ามาในโพรงปากนุ่มอย่างรวดเร็ว




ลิ้นร้อนรุกเร้าเข้าไปในโพรงปากนุ่ม และลิ้มรสชาติความหวานภายในโพรงปากนุ่มนั้นอย่างหิวกระหาย ดวงตากลมโตของร่างโปร่งเริ่มหรี่ลง ฮันกยองรู้สึกเหมือนในหัวเริ่มว่างเปล่า ลิ้นเล็กเผลอตอบรับกับการรุกของซีวอนโดยไม่รู้ตัว ซีวอนที่เห็นว่าร่างตรงหน้าเริ่มตอบรับเขา ทำให้เขายิ่งรุกเพิ่มเข้าไปอีก ลิ้นของทั้งสองเกี่ยวกระหวัดกันจนแทบจะเป็นชิ้นเดียวกัน




“อืม....อือ ๆ....” ริมฝีปากบางเริ่มปิดลง ใบหน้ามนขี้นสีจัด ฮันกยองกำเสื้อของซีวอนไว้แน่น ซีวอนเห็นว่าฮันกยองเริ่มจะหายใจไม่ทัน เขาค่อย ๆ ถอนริมฝีปากออกมาอย่างอ้อยอิ่ง ฮันกยองหอบทันทีที่ซีวอนถอนจูบ และพยายามสูดเอาอากาศเข้าไป




นัยน์ตาคมสำรวจฮันกยอง ที่ตอนนี้ใบหน้าขึ้นสีจัด ดวงตากลมหรี่ลง หน้าอกบางกระเพื่อมเล็กน้อยจากการหอบ ริมฝีปากกลายเป็นสีแดงจัดเพราะการรุกของเขาเมื่อกี้นี้ ร่างสูงเห็นสภาพคนตรงหน้าก็กระตุกยิ้มที่มุมปาก ใบหน้าคมเลื่อนมาอยู่ข้างใบหูของร่างโปร่ง และพูดในสิ่งที่เขาคิดในทันที




“ถ้านายอยากให้ฉันกลับไปหาคนที่ฉันต้องการ................คน ๆ นั้นก็คือนายนะแหละ ฮันกยอง” ซีวอนพูด พร้อมกับหากำไรโดยการหอมแก้มนุ่มของฮันกยอง




ดวงตากลมโตเบิกโพลง จากที่กำลังหอบเล็กน้อยเมื่อตะกี้ ก็ต้องหยุดชะงักในทันที ฮันกยองกระพริบตาปริบ ๆ ตอนนี้ความรู้สึกต่าง ๆ มันปนกันมั่วไปหมด หัวใจเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาจากอก




“.....คนที่นายต้องการนะ...คือโบอาไม่ใช่เหรอ...นายกลับไปหาเธอเถอะ....” ฮันกยองก้มหน้า ริมฝีปากบางถูกเม้มจนเป็นเส้นตรง ซีวอนที่ยืนคร่อมอยู่ จู่ ๆ ก็ขำออกมาดังลั่น ทำให้ฮันกยองที่ก้มหน้าอยู่เงยหน้าขึ้นมาดูอาการของคนตรงหน้า




“ฮ่า ๆ ๆ ๆ!!!! โธ่...ฉันก็นึกว่าอะไร...นี่นายคิดว่าโบอาเป็นแฟนฉันรึไง?” ซีวอนถาม พลางปาดน้ำตาที่อยู่บริเวณหางตาของตัวเองจากการหัวเราะไม่หยุด ฮันกยองที่โดนถามพยักหน้าเล็กน้อย พลางเสหน้าหันไปทางอื่น




“นี่ โบอานะ เป็นญาติฉันเอง ตอนนี้เธอพักอยู่ที่บ้านฉันนะ” ซีวอนตอบยิ้ม ๆ ฮันกยองก้มหน้างุด พยายามหลบสายตาของซีวอน ตอนที่ได้ยินว่าเป็นซีวอนกับโบอาเป็นญาติกัน เขาก็ดีใจจนไม่รู้จะทำตัวยังไงแล้ว




“นะ....นาย.....พูดจริงเหรอ....นายพูดเรื่องจริงใช่มั้ย....ซีวอน” ฮันกยองถามทั้ง ๆ ที่ยังก้มหน้า ซีวอนเลื่อนมือมาจับคางมน และเลื่อนใบหน้าของร่างโปร่งให้สบตากันตน




“วันนี้นะ นายเอาจดหมายซองสีเหลืองอ่อน ติดสติ๊กเกอร์รูปหัวใจสีฟ้า มาใส่ใต้โต๊ะฉันใช่มั้ย” ซีวอนยิ้มมุมปาก แต่ฮันกยองที่ได้ยินลักษณะจดหมายก็ยิ่งอึ้งเข้าไปอีก จนตอนนี้เขายืนตัวแข็งเป็นหินไปแล้ว




...เฮ้ย!!!......ซีวอนรู้ได้ไงเนี่ย!!!!???....




...ฉันไม่ได้ลงชื่อลงไปในจดหมายนี่นา.....




“ฉันเห็นลายมือ ฉันก็รู้แล้วละ ว่านี่นะเป็นจดหมายของนาย” ซีวอนยังยิ้มไม่หุบ ฮันกยองยืนแข็งเป็นหินอยู่เช่นเดิม แต่ดวงตากลมโตนั้นเบิกกว้างจนแทบจะออกมาจากเบ้าอยู่แล้ว




...อ๊ากกกกก...ทำไมใจมันเต้นแรงแบบนี้เนี่ยยยยยย....ใครก็ได้ช่วยฉันด้วยยยยย....




“ล...แล้ว...น....นายเคย.....เห็นลายมือฉัน....ดะ....ด้วยเหรอ?.....” ฮันกยองพูดตะกุกตะกัก เขาเริ่มรู้สึกร้อนที่ใบหน้ามาก แถมใจยังเต้นโครมครามจนแทบออกมาจากอก ซีวอนเห็นท่าทางของฮันกยองก็อมยิ้มไม่หุบ




“ฉันแอบเอาสมุดเรียนของนายไปอ่านตั้งหลายวิชา นายไม่รู้เลยเหรอ?” ซีวอนถามพร้อมเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ ฮันกยองจะถอยหลบ แต่หลังตัวเองติดอยู่กับกำแพง ทำให้ได้แต่หันหน้าหนีอย่างเดียว




“เอ๋???? งั้นแสดงว่า...ที่สมุดวิทย์ฉันหายไปวันนี้ก็....ฝีมือนายงั้นเหรอ?” ฮันกยองหันหน้ากลับมาอีกครั้ง ได้รับคำตอบเป็นการยิ้มจากซีวอน




“ใช่แล้ว แล้วก็อีกอย่างน่ะ.....วันนี้นายได้รับจดหมายใช่มั้ย” ฮันกยองพยักหน้าหงึกหงัก และเอียงหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงสงสัย




“จดหมายนั่นนะ.....ของฉันเองแหละ” ซีวอนตอบพร้อมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ฮันกยองยืนอึ้งเป็นหินอีกรอบ ใบหน้าขึ้นสีจัด จนเจ้าตัวรู้สึกว่าใบหน้าร้อนเหมือนควันแทบจะลอยออกมาจากใบหน้า




“ที่จริงฉันกะว่าวันนี้ฉันจะสารภาพกับนายเอง แต่นายดันเอาจดหมายมาให้ฉันก่อนนี่สิ ฉันก็เลยแกล้งให้นายเป็นฝ่ายบอกฉันก่อนนะ ขอโทษน่ะ” ซีวอนยิ้มให้ฮันกยอง มือหยาบกร้านเลื่อนขึ้นมาลูบเรือนผมนุ่มอย่างอ่อนโยน




“จะ....จะ....จริงเหรอ....” ฮันกยองพูดเสียงสั่น น้ำใส ๆ เริ่มคลอที่ดวงตากลมโต




“จริงสิ จะให้บอกอีกกี่ครั้งก็ได้น่ะ...ฉันรักนายน่ะ ฮัน ฉันแอบชอบนายมาตั้งนานแล้วน่ะ รู้มั้ย” ซีวอนเรียกชื่อฮันกยองอย่างสนิทสนม ริมฝีปากหนาประทับลงบนหน้าผากมนอย่างแผ่วเบา ฮันกยองก้มหน้างุด พลางเข้าไปกอดซีวอนแน่น พร้อมกับเอาหน้าซุกกับอกแกร่ง ซีวอนงง ๆ กับท่าทีของฮันกยอง แต่ก็ยังยิ้มอยู่เช่นเคย




“ฮึก...ฉันนึกว่านายจะไม่ชอบฉันซะอีก ก็ตอนอยู่ในห้อง...นายไม่เห็นจะคุยกับฉันเลยนี่” ฮันกยองซุกหน้า พร้อม ๆ กับที่หยดน้ำใส ๆ ไหลรินจากดวงตากลมโต




“โธ่...ก็ขืนให้ฉันไปคุยกับฮัน...วันรุ่งขึ้นฮันคงจะมาโรงเรียนไม่ได้กันพอดีน่ะสิ” ซีวอนพูดพลางยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ แต่ฮันกยองที่ได้ยินคำตอบเงยหน้าขึ้น พลางจ้องใบหน้าของซีวอนอย่างงุนงง




“ทำไมล่ะ??? ทำไมฉันจะมาโรงเรียนไม่ได้???” ฮันกยองเอียงคอเล็กน้อย แต่คำตอบที่ได้คือเสียงหัวเราะในลำคอของซีวอน




“หึ ๆ ๆ...ก็...นายอาจจะโดน....แบบนี้นะ” ซีวอนพูด พร้อมกับเลื่อนมือมาจับที่เอวบาง แล้วค่อย ๆ ลูบลงไปข้างล่างทีละนิด ๆ ทำเอาฮันกยองขนลุกซู่ และรีบหยุดมือของซีวอนทันที พร้อมกับเงยหน้าขึ้นจ้องซีวอนด้วยสายตาอาฆาต แต่สำหรับซีวอน มันยิ่งทำให้ดูน่ารักมากกว่า ซีวอนแลบลิ้นเลียรอบริมฝีปากตัวเองเล็กน้อย พร้อมส่งสายตาหวานเยิ้มมาให้ฮันกยอง




“นายนี่มัน!!!!!!” จากเมื่อกี้ที่กำลังร้องไห้ พอฮันกยองเห็นท่าทางของซีวอนก็หายร้องไปในทันใด มือเล็กทุบที่อกแกร่งแรง ๆ หลายครั้ง




“ฮะ ๆ ๆ ล้อเล่นน่า กลับบ้านกันดีกว่า เย็นมากแล้วน่ะเนี่ย เดี๋ยวฉันไปส่งน่ะฮัน” ซีวอนจับมือฮันกยอง พร้อมพาให้ฮันกยองเดินตาม




“อื้ม” ฮันกยองยิ้มให้ และเดินเคียงข้างไปกับซีวอน




“อ๋อ อีกอย่างน่ะฮัน คืนนี้ฉันขอนอนค้างที่ห้องนายละกันน่ะ” ซีวอนหันมาพูด ฮันกยองที่ได้ยินแทบจะพูดไม่ออก ก็แหงล่ะ...เพิ่งจะสารภาพรักกัน วันแรกมันจะบุกห้องกันเลยเรอะ!!




ซีวอนเห็นหน้าตาสุดแสนจะระวังภัยของฮันกยอง ก็แทบหลุดขำออกมา แต่เขาก็ต้องเก็บอาการขำไว้ ไม่เช่นนั้นฮันกยองอาจจะรู้ได้ว่า เขาเป็นพวกคุณชายมาดรั่ว -.,-




“โอ๊ย~ ฮัน ฉันไม่จับนายกดหรอก แค่จะไปกินข้าวฝีมือนายเท่านั้นแหละ” ซีวอนเปลี่ยนจากจับมือ เป็นโอบไหล่ของฮันกยองไว้




“อะ...อ้าว...หรอ งั้นก็ได้” ฮันกยองเปลี่ยนท่าทีจากหน้ามือเป็นหลังมือทันที แถมยังส่งยิ้มให้ซีวอนอีกต่างหาก




“นายนี่มันน่ารักจริง ๆ เลย ให้ตายสิ~♥” ซีวอนจับฮันกยองมาหอมแก้มด้วยความหมั่นเขี้ยว โชคดีที่ตอนนี้นักเรียนส่วนใหญ่กลับบ้านไปแล้ว ไม่อย่างนั้น...ข่าวประจำโรงเรียนวันพรุ่งนี้ คงจะได้เป็นเรื่องของซีวอนกับฮันกยองเป็นแน่นอน




“อ๊ะ!!! หยุดเลยน่ะซีวอน!!! ฉันก็เขินเป็นน่ะ!!!!” ฮันกยองผลักหน้าของซีวอนให้ไปไกล ๆ แต่หน้าของเขาตอนนี้ขึ้นสีจัดเลยทีเดียว ซีวอนขำกับท่าทางน่ารักของฮันกยอง และพาฮันกยองกลับไปที่บ้าน พร้อม ๆ กับตน




เมื่อมาถึงห้องของฮันกยอง ซีวอนออกอาการกระดี๊กระด๊าอย่างเห็นได้ชัด ทั้งสำรวจซอกนู้น ซอกนี่ ถึงขั้นที่ว่าสำรวจจนหาของที่ฮันกยองทำหายได้ภายในพริบตา ระหว่างที่ฮันกยองทำข้าวเย็นให้ ซีวอนก็ชอบมาเดินวนแถว ๆ ฮันกยอง ทั้งขอชิมบ้าง ช่วยจัดโต๊ะบ้าง ถือว่าช่วยได้เยอะเลยทีเดียว (มั้ง) บรรยากาศมื้อเย็นของฮันกยองวันนี้เลยสดใสขึ้นเยอะ เพราะมีคุณชายคนหนึ่งนี่ละ ที่มาป่วนอยู่แทบจะตลอดเวลาเลยทีเดียว






ไม่นานนัก ทั้งสองก็มาอยู่ในห้องนอนเพื่อพักผ่อน เพราะทั้งคู่เหนื่อยกันมากแล้วสำหรับในวันนี้ ซีวอนมองร่างในอ้อมกอดที่หลับสนิทไปเรียบร้อย นิ้วเรียวยาวเกลี่ยผมของฮันกยองขึ้นไปทัดหูให้อย่างอ่อนโยน




“ที่จริง....นายน่ะ ได้จดหมายรักทุกวันเลยน่ะฮัน” ซีวอนพูดคนเดียว พลางเหลือบดูคนที่อยู่ในอ้อมกอด





“เฮ้อ...ฉันละ...ไม่อยากจะบอกนายเลยจริง ๆ แหะ ว่าทำไมนายถึงคิดว่า นายได้จดหมายรักน้อยแบบนี้....” ซีวอนพูด และยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น สายตาก็ยังคงจ้องมองที่ฮันกยอง ใบหน้าคมขึ้นสีเล็กน้อย เมื่อนึกถึงการกระทำของตัวเอง ยิ่งคิดก็ยิ่งอายตัวเอง อดไม่ได้ที่จะเลื่อนมือมาปิดบังใบหน้าของตัวเอง ทั้ง ๆ ที่คนในอ้อมกอดก็หลับไปแล้ว เสียงทุ้มต่ำกระซิบออกมาเบา ๆ ว่า...















“......เพราะจดหมายรักที่นายได้น่ะ......ฉันแอบเอาไปเผาก่อนนายมาโรงเรียนน่ะสิ......”















THE END ^ ^

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น